ความรู้สึกของเจ้าของร่างเก่ามันได้ตายจากไปพร้อมกับร่างนั้นแล้ว ตอนนี้ข้าคือคนใหม่ที่จะทำให้ท่านนั้นแหละ ที่ต้องขอร้องอ้อนวอนเกาะข้าเมียบ่าวผู้นี้ให้จงได้!

เมื่อคนปากแซ่บหลงยุคมาเป็นเมียบ่าว - บทที่ 3 โดย ชิดในเลยพี่ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,จีน,ดราม่า,ข้ามเวลา,ย้อนยุค,วาย,นิยาย18+,นิยายPWP,นิยายจีน ,นิยายวาย,พีเรียดจีน,ย้อนยุค,ย้อนเวลา,นายเอกท้อง,นายเอกท้องได้,ชิดในเลยพี่,เมื่อคนปากแซ่บหลงยุคมาเป็นเมียบ่าว,จีน ,จีนโบราณ,เลี้ยงลูก,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เมื่อคนปากแซ่บหลงยุคมาเป็นเมียบ่าว

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,จีน,ดราม่า,ข้ามเวลา,ย้อนยุค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วาย,นิยาย18+,นิยายPWP,นิยายจีน ,นิยายวาย,พีเรียดจีน,ย้อนยุค,ย้อนเวลา,นายเอกท้อง,นายเอกท้องได้,ชิดในเลยพี่,เมื่อคนปากแซ่บหลงยุคมาเป็นเมียบ่าว,จีน ,จีนโบราณ,เลี้ยงลูก,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

เมื่อคนปากแซ่บหลงยุคมาเป็นเมียบ่าว โดย ชิดในเลยพี่ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ความรู้สึกของเจ้าของร่างเก่ามันได้ตายจากไปพร้อมกับร่างนั้นแล้ว ตอนนี้ข้าคือคนใหม่ที่จะทำให้ท่านนั้นแหละ ที่ต้องขอร้องอ้อนวอนเกาะข้าเมียบ่าวผู้นี้ให้จงได้!

ผู้แต่ง

ชิดในเลยพี่

เรื่องย่อ

ท่านปกป้องราษฎร เพื่อนพ้อง ราชวงศ์ และผู้คนนับล้านได้ แต่ท่านมิอาจปกป้องคนที่ท่านรักได้เลยหรือท่านแม่ทัพ หรือว่าแท้จริงแล้วท่านชิงชังข้า

หัวใจของท่านทำด้วยสิ่งใดหรือ ทำไมมันถึงด้านชาถึงเพียงนี้ ท่านหมดรักข้านั้นมิเป็นไร แต่ท่านจะมาข่มเหงคนที่ข้ารักไม่ได้ ท่านทำร้ายจิตใจของข้าและลูกถึงเพียงนี้ ท่านเกลียดข้าสองคนแม่ลูกมากเลยใช่หรือไม่ ขอเพียงท่านเอ่ยปากบอกข้ามาตรงๆ ว่าท่านหมดรักข้าแล้ว ไฉนเลยข้าจะหน้าด้านหน้าทนอยู่ได้

 

ท่านไม่ปล่อยข้าไม่พอ ท่านยังทำให้ข้าเหมือนตกนรกทั้งเป็นอีกหรือ!!!!


 

คำเตือน

ขอให้ผู้อ่านใช้สติในการอ่าน  นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาที่มีการผสมผสานหลายอย่างของรัชสมัยต่าง ๆ ของจีนที่ใช้นำมาประกอบอรรถรสของเนื้อเรื่องเพียงเท่านั้น

สารบัญ

เมื่อคนปากแซ่บหลงยุคมาเป็นเมียบ่าว-บทที่ 1,เมื่อคนปากแซ่บหลงยุคมาเป็นเมียบ่าว-บทที่ 2,เมื่อคนปากแซ่บหลงยุคมาเป็นเมียบ่าว-บทที่ 3

เนื้อหา

บทที่ 3

บทที่ 3


“เข่อซิงตื่นขึ้นมาทานยาเสียหน่อยเถิด” หลี่หมิงนั่งพยุงคนร่างเล็กมาไว้ที่อกของตน


“คุณชาย” เสียงที่แหบแห้งเพราะขาดน้ำเอ่ยเรียกคนที่ช้อนหลัง


“อ้าปาก ข้าจะป้อนยาให้”


เด็กน้อยเข่อซิงสั่นหัวเป็นการปฏิเสธ ท่าทางดื้อรั้น ช่างทำให้หัวใจของข้าเต้นไม่เป็นจังหวะ


“ไม่เอา..มันขม” ปลอกตาน้อย ๆ ที่ยังคงปิดไว้อยู่แต่จมูกที่ได้รับกลิ่นยังคงเด่นชัด แค่ได้กลิ่นก็รับรู้ได้แล้วว่ายาถ้วยนี้ต้องขมมากเป็นแน่


“อย่าดื้อ หากเจ้าดื่มยาหนึ่งช้อนข้าก็จะป้อนน้ำผึ้งเจ้าหนึ่งช้อน หากเจ้าดื่มอีกหนึ่งช้อนข้าก็จะป้อนน้ำผึ้งให้เจ้าทุกครั้งหลังดื่มยาหมดหนึ่งช้อน เช่นนี้ดีรึไม่ หืม เด็กดี” น้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าปกติ มือก็ยกขึ้นมาลูบผมนุ่มอย่างคุ้นมือ


“อื้ม” เด็กน้อยเข่อซิงพยักหน้ารับพร้อมอ้าปากรอ คุณชายยังคงหลอกล่อข้าเก่งเช่นเดิม


รสชาติของยาที่สัมผัสกับลิ้นน้อยก็ต้องรีบกลืนอย่างรวดเร็ว


“ฮืออ ขม” ถัดมาก็มีความรู้สึกหวานหอมแทรกเข้ามาในโพรงปาก น้ำผึ้งป่าช่างหอมรัญจวนใจ




เมื่อทานยาจนหมด หลี่หมิงก็พาเด็กน้อยเข้านอน ห่มผ้าห่มหนา นั่งเฝ้าจนเด็กน้อยหลับสนิท






ข้ารู้ว่าภายในอนาคตเจ้าจะต้องเสียใจกับเรื่องที่ข้ามิอาจควบคุ้มได้ แม้เจ้าจะมีสถานะเป็นได้แค่เมียบ่าว แต่อย่างไรเจ้าก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียข้า ข้ามิอาจปล่อยเจ้าไปได้ เจ้าจะรับรู้ความรู้สึกของข้าได้ไหมนะ เมื่อเจ้าโตขึ้นกว่านี้อีกนิด เมื่อถึงยามนั้น เจ้าก็ต้องเป็นของข้า หึ ข้ายอมเป็นคนเห็นแก่ตัวดีกว่าเป็นคนดีแล้วจะต้องเสียเจ้าไป หากเจ้ารับรู้ความคิดอันสกปรกของข้า เจ้าจะรังเกียจข้ารึไม่ เจ้าจะขยาดชายผู้นี้หรือไม่


ถึงเจ้าจะรังเกียจข้าแล้วอย่างไรเล่า เมื่อถึงเวลานั้นยามที่เจ้าตั้งครรภ์เด็กน้อย ลูกของข้าเจ้าก็จะไม่มีทางที่จะหนีได้อยู่ดี เจ้าจะต้องอยู่ข้างกายของข้าตลอดไป


ข้ารับรู้ความรู้สึกของข้าดีว่าที่มีต่อเจ้าคือสิ่งใด ความรู้สึกที่เกินกว่านายกับบ่าวที่ควรจะเป็น จนอาเหม่าพูดย้ำเตือนข้าถึงสถานะเราทั้งสอง ยิ่งทำให้ข้าตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด




“คุณชายข้ารู้ว่าท่านชอบพอเจ้าหนูเข่อซิงไม่น้อย แต่ด้วยสถานะชนชั้นที่แตกต่างกันนั้น ท่านไม่มีทางทำให้เจ้าหนูหลุดพ้นตำแหน่งเมียบ่าวได้ขอรับ”


“ไม่! ข้าไม่มีทางยอมให้เข่อซิงเป็นเพียงเมียบ่าว”


“คุณชายเจ้าหนูนั้นยังเล็กนัก ปล่อยให้เขาได้เติบใหญ่โดยไร้คำติฉินนินทาเถิด ข้าไม่อยากให้ท่านให้ความหวังกับเขา ท่านก็รู้วาสนาของท่านมิได้ผูกไว้กับเขา เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่หาลือกันไว้แล้ว เมื่อท่านถึงวัยปักปิ่น คุณหนูบ้านซ่งคงมิยอม หากรู้ว่าผู้ที่เป็นสามีของตนเองนั้นโปรดปรานบ่าวรับใช้สถานะต่ำต้อยมากกว่านางที่เป็นคุณหนูในห้องหอ หากท่านมิอยากทำให้เจ้าหนูเข่อซิงต้องรองรับความเจ็บช้ำ ก็จงตัดขาดความรู้สึกนั้นเถิดขอรับ”




บทสนทนาในห้องครัว จากบ่าวคนสนิทที่คอยเตือนถึงสถานะความเหมาะสม ความเป็นไปได้ที่แสนน้อยนิด ความหวังดีต่อข้าและเข่อซิง ยิ่งตอกย้ำว่าอย่างไรข้าก็มิอาจปล่อยเข่อซิงไปได้




“ข้าเป็นนาย เจ้าเป็นบ่าว กล้าดีอย่างไรถึงได้สอดปากมายุ่งเรื่องของเจ้านาย!”


“บ่าวขออภัย เพียงแต่บ่าวมิอยากให้คุณชายทำเรื่องที่มิอาจแก้ไขกลับคืนมาได้เท่านั้น”


“จะแก้ไขได้รึไม่ ข้าเป็นคนตัดสินใจเอง!”


“บ่าวขออภัยขอรับคุณชายใหญ่”


“หนนี้ถือว่าเจ้าทำผิดครั้งแรก อย่าให้มีครั้งหน้า!”


“ขอรับ”






หลังจากที่ป้อนยาและรอจนเด็กน้อยหลับก็ไม่ลืมที่จะต้องไปพบผู้เป็นมารดา แม้จะเตรียมใจมาอยู่แล้วว่าหนนี้อย่างไรก็คงหนีไม้ที่อยู่ในมือของมารดาไม่ได้ ยามปกติที่ถูกมารดาทำโทษจนถึงขั้นโบยย่อมสั่งให้บ่าวเป็นคนโบยแทนเพราะอย่างไรบ่าวพวกนั้นก็ไม่คงไม่กล้าโบยข้าแรง แต่ครั้งนี้กับเป็นท่านแม่ที่ทำโทษข้าด้วยตนเอง ไม่ต้องให้ผู้ใดมาสั่งก็ล้มตัวนอนกับท่อนไม้ยาวที่ตั้งอยู่หน้าเรือน




ผลัว!!


เสียงไม้ไผ่ที่กลมเกลี้ยงถูกฟาดลงที่แผ่นหลังไม่ยั้งแรง คุณชายใหญ่ของจวนแม่ทัพนอนกัดฟันแน่น ไม่แม้แต่ส่งเสียร้องออกมาแม้แต่น้อย ผู้เป็นมารดามือที่ถือไม้ไผ่อย่างไม่สั้นไหว ดวงตานิ่งเรียบแต่ภายในใจกับรู้สึกผิด คนเป็นแม่ย่อมไม่อยากจะทำลูกเจ็บ แต่ในเมื่อพูดดี ๆ แล้วไม่ฟังก็ต้องสั่งสอนให้รู้จักสำนึก




เมื่อโบยจนครบไม้ที่ห้ามือขาวก็ทิ้งไม้ไผ่ลงกับพื้น หันหลังให้กับลูกชาย ดวงตาที่แต่เดิมนิ่งเรียบกับแดงระเรื่อขึ้นมา




“ลูกขอขอบคุณท่านแม่ที่สั่งสอนบุตรไม่ได้ความคนนี้” หลี่หมิงพยุงตนเองขึ้นอย่างยากลำบาก ฟันที่ขบกันก่อนหน้าได้เป็นอิสระ มือยกขึ้นประสานกันก้มตัวลงขอบคุณผู้เป็นมารดาที่สั่งสอน


เมื่อฟังสิ่งที่ลูกชายพูดเสร็จก็เดินจากมา เหลือเพียงหยดน้ำตาที่ทิ้งรอยไว้บนพื้นหิน






“อาเหม่ยเจ้าเอาน้ำแกงถ้วยนี้ไปให้คุณชายใหญ่เสีย แล้วก็ยาตลับนี้ก็ให้อาเหม่าเป็นผู้ทาให้เขาด้วย”


“ฮูหยินเรื่องนี้คุณชายใหญ่มิได้ผิดอันใดเลยนะเจ้าคะ” เข่อซิงตกน้ำตกท่าก็เป็นเพราะอุบัติเหตุอย่างไรข้าก็มิอาจโทษคุณชายได้ ที่ผ่านคุณชายก็ดูแลเข่อซิงมาไม่น้อย


“ข้าสั่งสิ่งใดเจ้าก็ไปทำ”


 เห็นได้ชัดว่าผู้เป็นนายไม่อยากได้ยินเรื่องนี้อีก บ่าวอย่างข้าก็มีหน้าที่แค่ทำตาม






“อาเหม่า” อู๋เหม่ยเรียกบ่าวรับใช้คนสนิทของคุณชายที่ยื่นเฝ้าอยู่หน้าเรือน


“พี่เหม่ย”


“น้ำแกงถ้วยนี้และยาตลับนี้ฮูหยินให้นำมามอบแก่คุณชายใหญ่” อู๋เหม่ยยื่นถาดให้แก่อาเหม่าสายตาก็มองเข้าไปภายในเรือน ข้าอยากเจอลูกชายจะแย่อยู่แล้ว เจ้าเด็กน้อยขอข้าจะตื่นขึ้นมาทานข้าวทานยาหรือยัง


“ขอบคุณขอรับ” อาเหม่ารับถาดมาถือไว้ในมือ เมื่อเห็นสายตาของหญิงตรงหน้าย่อมเข้าใจในสิ่งที่คิด


“พี่คงจะมาหาเจ้าหนูด้วยใช่หรือไม่”


อู๋เหม่ยพยักหน้าตอบรับแม้ภายในเรือนจะมีบุตรชายของตนแต่ก็ใช่ว่าจะเดินเข้าไปได้ จำต้องได้รับอนุญาตเสียก่อน


อาเหม่ายิ้มรับ เอ่ยเสียงเบา” คุณชายใหญ่สั่งไว้หากท่านพี่ทั้งสองมาเยี่ยมบุตรก็ให้เข้ามาได้เลยขอรับ”




อู๋เหม่ยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจยิ่งนักบอกอาเหม่าว่าจะไปตามสามีให้เข้าไปดูอาการลูกชายพร้อมกัน อู๋เหม่ยวิ่งจากไปเพียงไม่นานก็เดินมาพร้อมกับสามี เสียงฝีเท้าทั้งสามที่เดินเข้ามาอย่างแผ่วเบา จนมาหยุดที่ห้องของคุณชายใหญ่หลี่หมิง เดินเข้าไปก็เห็นเพียงลูกชายของตนเพียงลำพัง รู้สึกผิดไม่น้อยที่เหมือนลูกชายมารบกวนคุณชาย อาเหม่าเล่าหลังจากรับโทษคุณชายก็เข้าไปพักในห้องเล็กข้างๆ




ฝ่ามือผู้เป็นมารดาลูบหัวบุตรชายอย่างแผ่วเบา ดวงตาที่ยังคงปิดสนิท


“ไว้เจ้าหายดีแล้วแม่จะพาไปกินน้ำตาลปั้นของชอบเจ้า”


“ลูกรักของพ่อ” มือที่กร้านแดดลูบไล่ใบหน้าเล็กด้วยความห่วงใย


ปกติแล้วลูกของพวกเขาเป็นเด็กที่ร่างกายแข็งแรงแม้จะเป็นเกอ แต่ภาระกำลังกับไม่ได้น้อยอย่างคนอื่นทั่วไป แม้ภายนอกร่างกายจะดูบอบบาง แต่เด็กคนนี้กับแบกฝืนขึ้นบ่าได้สองมัด หากเป็นเกอหรือเด็กวัยทั่วไปเพียงแค่มัดเดียวก็เซจวนจะล้ม แต่ครั้งนี้ดูท่าร่างกายคงไม่ได้แข็งแรงเหมือนอย่างเก่าแล้ว




ดูอาการของลูกชายได้สักพักก็ต้องแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง อู๋เหม่ยต้องกลับไปดูแลนายหญิงของจวน ส่วนโม่ฉือก็ต้องเตรียมไปหาฝืนดังไปทำสำหรับอาหาร