ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
รัก,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,เล่าประสบการณ์,ตลก,พล็อตสร้างกระแส,Y2K,ย้อนยุค,พระเอกเก่ง,เจ้าแผนการ,นักธุรกิจ,คนในฝัน,รวยตั้งแต่ยังเด็ก,สร้างตัว,สายเปย์,มาเฟีย,ตัวพ่อ,โรงเรียน,พล็อตไม่ซ้ำใคร,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เสือเจ้าพระยา | ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า (อ่านฟรี!)ช่วยเลิกสนใจหน้าปกเสียที แล้วช่วยดูเนื้อหาที่ผมเขียนหน่อย!
เสือเจ้าพระยา ภาคที่ 1 | จับเสือมือเปล่า!
- ที่มาของชื่อเรื่อง -
ซ้ายเด่นสง่าเสือเจ้าพระยา ขวาดาราประดับฟ้าเพริศแพร้ว
สองเพชรงามน้ำหนึ่งเมืองบัวแก้ว ผู้ผ่องแผ้วคู่แคว้นแดนประทุม
………
นิยายเรื่องนี้จะเป็น ‘แนวสร้างตัว’ ซึ่งตลอดทั้งเรื่องผสมผสานไปด้วยมุกตลก และสอดแทรกไว้ด้วยสาระ โดยที่ได้อิงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงบนโลก ในภาคนี้จะมุ่งเน้นไปที่การปูพื้นฐานตัวละคร และก็โครงเรื่องเสียเป็นส่วนใหญ่
โดยนิยายจะเล่าย้อนกลับไปในช่วงปี พ.ศ. 2548 เป็นเรื่องราวของพระเอกที่มีชื่อว่า “เสือน้อย” นับตั้งแต่เจ้าตัวได้เข้ามัธยมต้นในภาคที่ 1 จนกระทั่งเรียนจบมหาลัย ในภาคที่ 5
ผู้เขียนเชื่อว่าท่านนักอ่านนั้น ‘มีลิมิต’ ในการยอมรับนิยายสักเรื่องหนึ่ง ดังนั้นในตอนที่ 24 “คนขี่ควาย” ก็อาจช่วยให้ท่านตัดสินใจง่ายขึ้น แน่นอนหากว่าท่านอ่านเต็มภาคได้ย่อมจะดีที่สุด
“ใครจะไปคิดว่าควายจะเปลี่ยนชีวิตคนได้?” ทองสุขเจ้าควายตัวแสบ ถูกพ่อหยิบยกขึ้นมาเปรียบเปรยให้ลูกชายได้ฉุดคิดถึงสิ่งที่ทำอยู่ และมันได้จุดประกายความคิดของเด็กหนุ่ม ทำให้ชีวิตเขาพลิกผันไปตลอดกาล
♪
บทเพลงที่ใช้เปิดนิยายเรื่องนี้ คือ ‘เพลงบ้าหอบฟาง’ ของวงอัสนี-วสันต์
หอบฟางหอบฟางไปไหน ทำไมถึงต้องหอบฟาง
หอบกันจริงๆจังๆ หอบกันรุงรังหอบฟาง
♪
#พล็อตไม่ซ้ำใคร #นักธุรกิจร้อยล้าน #นักรักตัวพ่อ #มาเฟีย
นิยาย 5 ภาค/เล่ม(จบ) | จำนวน ≈643,202 คำ - [มี E-Book]
[--- อ่านฟรีรวม 150 ตอน! ---]
ภาคที่ 1 จับเสือมือเปล่า
(อ่านฟรีทั้งภาค!)
ภาคที่ 2 เสือไว้ลาย
(ฟรีตอนที่ 57-87)
ภาคที่ 3 หน้าเนื้อใจเสือ
(ฟรีตอนที่ 116-131)
ภาคที่ 4 ชาติเสือจับเนื้อกินเอง
(ฟรีตอนที่ 186-207)
ภาคที่ 5 เสือหมอบ
(ฟรีตอนที่ 251-275)
(จบบริบูรณ์)
คำโปรย
เด็กหนุ่มผู้แผ้วถางป่าดงอันรกเรื้อ...
“ใช้สองมือกวาดพงสร้างทางฝัน สองเท้าย่างก้าวพลันสู่จุดหมาย
ขีดเขียนโชคชะตาด้วยใจกายยืนหยัดอย่างผึ่งผายด้วยคุณธรรม”
อุปสรรคนานัปการ…จะหล่อหลอมให้เขา กลายเป็นคนแกร่ง!
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้ ผู้เขียนแต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ชื่อตัวละคร เหตุการณ์ และสถานที่ต่าง ๆ ในเรื่อง อาจปรากฏอยู่ในความเป็นจริง “ทั้งนี้ผู้เขียนมิได้มีเจตนามุ่งทำร้ายให้เกิดความเสื่อมเสียต่อบุคคลวิชาชีพ หรือองค์กรใดทั้งสิ้น” หากแต่ใช้อ้างอิงเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านเท่านั้น…
เนื้อหาในนิยายอาจมีเนื้อเรื่องที่ไม่เหมาะสมปรากฏอยู่บ้าง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครอง …หากมีความผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ตอนที่ 40 พ่อค้าของสุ่ม กับร้านขายของชำ
พอถึงบ้านของลูกหมี
เสือน้อยก็เคาะประตูเรียกตามความเคยชิน “ลูกหมีจ๋ามีของมาฝาก…”
ไม่นานนักลูกหมีก็เปิดประตูออกมา สาวสวยจึงพูดขึ้น “มีอะไรเหรอเสือน้อย?” เธอถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ
“ซื้อนิยายมาฝาก วันก่อนได้ยินลูกหมี คุยกับเพื่อนว่าอยากได้ เราเลยเอามาฝากน่ะ…” เสือน้อยฉีกยิ้มกว้าง
เขานึกถึงเหตุการณ์วันก่อน “นี่ถ้ามีใครกล้ามาเกาะแกะกับลูกหมีอีก โทรบอกเสือได้เลยนะเดี๋ยวไปจัดการมันให้!” วันก่อนเสือผ่านไปเจอพวกเด็กต่างถิ่นเข้ามาแซวจีบลูกหมี
จึงไม่วายโดนเขากระโดดถีบขาคู่ จนอีกฝ่ายปลิวล้มลงไป "เสือน้อยไล่เตะไล่ต่อย จนอีกฝ่ายน่วมไปทั้งตัว พร้อมยังขู่ห้ามมายุ่งกับลูกหมีอีก!"
สำหรับเสือน้อยแล้ว คิดว่ามันเป็นหน้าที่และความเคยชิน ที่จะปกป้องคนในครอบครัว ดังนั้นถ้ามีใครกล้าเหิมเกริมมายุ่มย่ามกับคนของเขา ไม่มีทางจบลงด้วยดีแน่ และก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ทุกคนรู้ดีว่า “ห้ามแกล้งลูกหมี ในตอนเรียนประถม…”
“ขอบใจจ้ะพ่อคนเก่ง” ลูกหมียิ้มรับของจากอีกฝ่าย เป็นหนังสือนิยายที่เธออยากได้มานานแต่ไม่มีเวลาว่างเสียที
ถ้าไม่เรียนหรือทำการบ้านก็ต้องไปอยู่ที่ร้านป้าชบาคอยช่วยกำกับดูแลลูกน้องทุกวัน เงินเดือนเธอก็ได้มากนักแหละ พอที่จะซื้อของที่อยากได้สบาย ๆ
“ตอนแรกจะซื้อเสื้อมาฝากด้วย แต่ไม่รู้ไซซ์กลัวซื้อมาผิดเสียดายตังค์ ก็เลยซื้อปลอกหมอนลายลูกหมีตัวน้อยมาให้!”
เสือน้อยยื่นไปให้…ส่วนเจ้าตัวก็ยิ้มรับไว้ด้วยความดีใจ
จากนั้นเสือน้อย…ก็เข้าไปนั่งคุยเรื่องงานกับลูกหมีสองสามเรื่อง เพราะโรงงานถมที่ดินเสร็จแล้วใกล้เป็นรูปเป็นร่าง ทั้งยังมีแผนในอนาคตอีก
จึงมาถามความเห็นของลูกหมีว่า “อยากจะได้อะไรเพิ่มหรือ อยากได้คนมาช่วยมั้ย ถ้าลูกหมีต้องการบอกเสือเลยเดี๋ยวไปจัดการให้!”
ทุกวันนี้นอกจากเสือน้อยที่ตามตัวยาก ลูกหมีก็คือหัวหน้าที่เห็นหน้าเห็นตาเป็นคนจ่ายเงินและดูแลบัญชี
ด้วยการฝึกฝนของแม่ชบา ทั้งยังใช้พวกโปรแกรม Excel ในโน้ตบุ๊ก จึงช่วยลดเวลาในการการคำนวณไปได้เยอะเลย
“วันนี้มากินข้าวเย็นที่บ้านด้วยนะ” เสือน้อยเชิญชวนตามปกติ ส่วนลูกหมีก็ยิ้มกว้างไม่รู้ว่าภายในใจคิดอะไรอยู่...
นกแก้วโทรไปรายงานแม่ชบาว่า “พี่เสือของเธอซื้อของมาฝากเธอกับพี่ลูกหมี…”
แม่ชบาก็อดชมในใจไม่ได้ที่ลูกชายตัวดีเริ่มมีสมองขึ้นมาบ้างแล้ว...
“แต่ว่าวันนี้มันไปเดทกับยัยหนูที่ชื่อเหมือนฝันนั่นนี่นา” เธอแอบได้ยินมาจากสองพ่อลูก
ที่ไปแอบคุยกันวันก่อน “ดูท่าต้องให้ไอ้เสือโง่…มันพามาดูตัวเสียหน่อยแล้ว” แม่ชบาคิดในใจ
……
ช่วงเวลาก่อนปิดเทอม คือฤกษ์งามยามดี ในการเปิดตัวเกมออนไลน์ใหม่ ๆ
เพื่อดึงเด็กที่ปิดเทอมอยู่กับบ้านมาใช้เวลาเล่นเกม และเสือน้อยย่อมไม่พลาด โอกาสทำเงินแบบนี้แน่ ๆ เพราะเวลาเกมไหนเปิดใหม่ คนก็มักจะแห่แหนกันไปเล่นเกมนั้นกันอย่างถล่มทลาย
ธุรกิจปั๊มเงินในเกมของเสือน้อยก็จับจังหวะจากจุดนี้ ชั้นสามกับชั้นสี่ของร้านเต็มไปด้วย ‘ลูกจ้าง’ ที่เขียนสัญญาเป็นรายลักษณ์อักษร กำลังตั้งอกตั้งใจเล่นอยู่
เสือน้อยเองช่วงนี้ก็ไม่มีอะไรทำมาก นอกจากซ้อมมวยเป็นงานหลัก ฟันดาบกับยางรถ เลี้ยงควายเป็นงานเสริม
เหลือก็แค่เล่นเกมเป็นเวลาว่าง ส่วนงานอื่น ๆ เขาก็จ้างลูกน้อง หรือฝากรองประธานลูกหมีให้ช่วยดูแล
วันหนึ่งขณะเขาเล่นเกมอยู่บ้าน
เกมใหม่ที่เปิดมาได้สองอาทิตย์กว่า ๆ ธุรกิจของเขาก็ดำเนินการอย่างเต็มที่ เสือน้อยเองก็เป็นส่วนหนึ่งในการปั๊มตังค์ไอดีประจำตัวของเขาคือผู้เล่นอันดับต้น ๆ ของเกม
และในวันนี้เองขณะที่เสือน้อยนั่งเล่นเกม เติมเงินในเกมเพื่อสุ่มและเตรียมตัวที่จะไปล่าบอส ก็ปรากฏว่าได้ของแรร์มาชิ้นหนึ่ง…
พอได้ยินว่าเสือน้อยได้ของแรร์มาก็มีคนติดต่อขอซื้อเข้ามาในแช็ตมากมาย จนเสือน้อยให้เมลไปคุยกันใน MSN แน่นอนคนให้ราคาดีย่อมได้ไป ด้วยเป็นเพราะว่าของสุ่ม ซึ่งเปิดกล่องโอกาสได้น้อยนิดจนแทบใจหาย
แน่นอนว่าบริษัทเกมก็มีวิธีการทำเงิน…ในแบบของธุรกิจของพวกเขาเอง
และของที่เขาได้มาเป็นชุดแรร์หายาก ที่เปิดสุ่มโอกาสต่ำเตี้ยเรี่ยดิน พวกผู้ใหญ่ที่สนใจติดต่อเสือน้อยเข้ามามากมาย เสือน้อยก็เลือกคนที่ให้ราคาเยอะสุด บอกให้มาคุยกันที่ร้านเกมย่านเมืองปทุม หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็ขับรถหรูเปิดประทุนมาหาถึงที่
ทั้งคู่ก็ดูของที่ตกลงกันไว้ และก็ของอื่น ๆ ในไอดีของเสือน้อยด้วย จึงทำให้เขาเหมาของเสือน้อยแทบหมดไอดี เสือน้อยขายได้เงินทำลายสถิติเป็นประวัติการณ์สำหรับเขา
ซึ่งขายไปเจ็ดหลักจวนเจียนจะถึงแปดหลักอยู่รอมร่อ พี่ชายคนนี้ขับรถหรูกลับบ้านไปทั้งอย่างงั้น
จนรู้ว่าภายหลังจากนั้นหลายอาทิตย์ พี่คนที่ซื้อชุดแรร์และเหมาของเขาไปหมดก็ได้นำไปปล่อยขายให้คนอื่นต่อ ทั้งยังบวกกำไรไปอีกหลายล้าน!
นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะในโลกออนไลน์ มีผู้คนทุกเพศทุกวัย ฐานะทางบ้านแต่ละคนก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้วที่จะซื้อของพวกนี้ได้ ในราคาระดับนี้
คนรวยย่อมต้องการของไว้อวดเพื่อนในชีวิตจริง หรือว่าเพื่อนในเกม ขนหน้าแข้งของพวกเขาก็ไม่ร่วงเลยสักนิด ต้องเข้าใจก่อนว่าเกมออนไลน์คนเล่นทั้งประเทศ
ไม่ใช่แค่ในจังหวัดเท่านั้น มีตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงคนวัยทำงาน มีตั้งแต่เด็กยากจน ไปถึงลูกของเศรษฐี
เสือน้อยที่ได้เงินมาก้อนใหญ่เขาจัดฉลองกับทางครอบครัว แต่ไม่ได้บอกว่าฉลองเนื่องในโอกาสอะไร เขาใส่เงินเข้าบัญชีไปแล้ว
มีคนรู้อยู่ไม่กี่คนนอกจากไอ้ยักษ์ใหญ่สมุนซ้ายขวาของเขาแล้ว ที่พอลูกพี่อารมณ์ดีก็แจกจ่ายเงินโบนัส ให้ลูกน้องไปเก็บเข้าบัญชี
เงินลงทุนซื้อที่ดินและสร้างโรงงาน ก็กำลังไปได้สวย ใช้บริษัทมืออาชีพแก้ปัญหารวดเร็วทันใจ เสือน้อยจึงขอพ่อให้พาไปดูเครื่องจักรเสียหน่อย เพราะเขาเห็นว่ามีงานอยู่ที่บูทเมืองทองอยู่ใกล้แค่ไม่กี่นาทีนี้เอง
ในงานเสือน้อยก็เดินดูเครื่องจักรใหม่ ๆ ด้วยความสนอกสนใจ โดยเฉพาะพวกเครื่องผลิตลูกชิ้น ผลิตฮอตดอก ผลิตเกี๊ยว เสือน้อยให้ความสนใจมาก
……
เขาเองก็ยังฝันว่าถ้าสักวันหนึ่งมีสินค้าก็จะเอาไปลงร้านสะดวกซื้อชื่อดัง เช่น เซเว่น โลตัส 108Shop พอมีเงินเขาก็อยากขยายการลงทุน
แต่ว่าผลิตของมามันก็ต้องขายได้ด้วย หากผลิตมา ‘ไม่มีที่ขาย’ หรือว่า ‘ขายไม่ได้’ มันก็เท่านั้น!
พวกลูกชิ้นอยู่ในหมวดหมู่ที่ง่ายต่อการผลิต ส่วนโรงงานที่จะเปิดใหม่ก็มีขนาดใหญ่เสียปานนั้น พ่อบอกว่าเผื่อเอาไว้ทำธุรกิจอื่น ๆ ได้
และเมื่อเสือน้อยได้เห็นเครื่องจักรใหม่ ๆ ตัวเขาก็ตาลุกวาวเหมือนเปิดโลกทัศน์ คล้ายกบในกะลาที่ลืมตาออกมามองโลกกว้าง
พอกลับถึงบ้านเขาก็นั่งเล่นเกมไปพลางครุ่นคิดอะไรไปเรื่อย เสือน้อยก็คิดแผลง ๆ ถ้าเราเปิดร้านขายของขึ้นมาด้วยตัวเองล่ะ?
โดยเริ่มจากละแวกบ้านก่อนเลย ซึ่งตอนนี้ไม่มีคู่แข่งเจ้าไหนมาเปิดสู้ “ยกเว้นก็แต่ร้านของแม่ค้าปากปลาร้า”
ด้วยเป็นคนคิดเร็วทำเร็วจึงวิ่งปรู๊ดไปเคาะห้องพ่อกับแม่
ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกันอยู่ พอเขาได้ยินเสียงกระเส่าของแม่ชบา เสือน้อยก็หยุดเคาะประตูอย่างรู้หน้าที่ ลูกที่ดีต้องมีเวลาให้พ่อแม่ได้พักผ่อน
เขาจึงวิ่งไปในห้องร่างแบบบนกระดาษ เขาลอกแบบร้านสะดวกซื้อรายใหญ่มาทั้งดุ้น แต่แค่มาออกแบบให้มันเป็นสัญลักษณ์ของตัวเองทั้งโทนสี
ที่ต้องแตกต่าง คิดไปคิดมาร้านกาแฟก็เกิดขึ้นตามมา ทว่ากลับก่อนจะหยุดความคิดไว้ทัน เอาไว้มีเงินก่อนดีกว่า พอมีเงินคิดอะไรก็จะได้ดั่งใจหวัง แต่จะประสบความสำเร็จหรือเปล่าอีกเรื่องหนึ่ง!
‘ร้านขายของชำ’ เสือน้อยอาศัยประสบการณ์ที่พ่อสอนวาดรูป
มาใช้ร่างแบบมาได้หลากหลาย โดยคิดว่าสาขาแรกก็จะเปิดแถว ๆ บ้านนี่แหละเยื้อง ๆ ออกไปก็มีทำเลที่พอใช้ได้อยู่เป็นตึกเก่าสามชั้น อยู่ฝั่งตรงข้ามกับชุมชนแออัดและบ้านของเขา
‘ส่วนร้านแม่ค้าปากปลาร้า’ ที่เข้าไปกี่ทีก็ฟังไม่ถูกหูเสียเลย ซึ่งเป็นอย่างนี่มาตั้งแต่เด็ก
ก็คงถึงคราวที่จะต้องปรับตัว ด้วยคิดว่าตัวเองเป็นร้านเดียวในละแวกนี้ จึงได้สำคัญตัวผิด และทุกวันนี้เสือน้อยก็ยังเจออยู่เลย ป้าปากปลาร้าชอบพูดจาไม่ดีใส่เขา
หลังจากผ่านไปพักใหญ่ย่องไปหน้าห้องพ่อแม่ ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร จึงเริ่มเคาะประตูเรียกสักเล็กน้อย ก่อนพูดขึ้นว่า “พ่อจ๋าแม่จ๋า มีเรื่องปรึกษาเดี๋ยวไปรอที่ศาลาริมน้ำนะ”
พ่อแม่ที่กำลังใส่ชุดวันเกิดกันอยู่ก็ทยอยใส่เสื้อผ้าอย่างไม่เร่งรีบ
เพราะเจ้าเสือน้อยมันรู้งานอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นคงมายืนกดดันอยู่หน้าประตู ส่วนเธอกับสามีก็ไม่ได้ทำอะไรน่าอายเสียหน่อย จึงไม่จำเป็นต้องขวยเขินอะไร…
……
พ่อแม่เดินมาเห็นเสือน้อยกำลังวาดอะไรอยู่บนโต๊ะ หลอดไฟก็เปิดสว่างจ้า ทั้งคู่ก็มานั่งข้าง ๆ ลูกชายตัวดี
เสือเห็นดังนั้นจึงเล่าให้พ่อแม่ฟัง อยากเปิด ‘ร้านสะดวกซื้อ’ เปลี่ยนคำก็ดูดีเสียอย่างงั้น จากร้านขายของชำ เป็นร้านสะดวกซื้อ
เสือน้อยเล่าแรงบันดาลใจ บอกได้ว่าพบอะไรมาและก็เห็นอะไรมา ส่วนสำคัญก็คือเปิดไว้หาซื้อของกินเองจะได้ไม่ต้องเดินไปหาไกล ๆ จึงอยากเปิดเป็นทางเลือกให้คนแถวนี้
และก็สำหรับตัวเขาเองด้วย เพราะหิวเมื่อไหร่ก็ออกไปหยิบอะไรกินเสียหน่อย…
จากนั้นไม่นานพ่อกับแม่ก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ ทั้งสองปรึกษากันอยู่ครู่หนึ่ง เสือน้อยที่เดินไปเดินมา จนนกแก้วตื่นขึ้นมา
เธอเดินออกมาพร้อมตุ๊กตาตัวโปรด มานั่งงัวเงียฟังพี่ชาย พูดเพ้อเจ้ออะไรสักอย่างเธอจำได้ราง ๆ
จากนั้นก็วานให้พ่อกับแม่ช่วย หาเช่าหรือซื้อตึกด้านหน้าชุมชนให้หน่อย
และช่วยหาคนที่เชี่ยวชาญพวกร้านสะดวกซื้อด้วย “ท่าจะให้ดีพวกร้านขายของชำเป็นอย่างไง ก็สืบมาให้หน่อย ประเดี๋ยวเสือน้อยจะออกเงินเอง”
นกแก้วพ่นเสียงผ่านโพรงจมูก “พี่เสือเนี่ยนะจะออกเอง ขอเงินลุงกับป้าเสียมากกว่ามั้ง”
เธอยังไม่อดบ่นพี่ชายจอมก่อเรื่อง ร้านหมูปิ้งก็ไม่ไปช่วยดู ร้านกับข้าวก็ด้วย ก็เอาแต่หมูไปขายหน้าโรงเรียนอย่างเดียว จะเอาเงินที่ไหนมาออก?
ซึ่งความจริงแล้วทั้งเสือน้อยและก็พ่อแม่ ไม่ค่อยได้เล่าอะไรให้นกแก้วฟัง เพราะว่าเจ้าหล่อนพึ่งจิตตกกับเรื่อง ที่พ่อกับแม่ของเธอแยกกันไปอยู่หยก ๆ
ส่วนนิสัยของเสือน้อยก็ยิ่งไม่ใช่พวกขี้คุย เป็นพวก ‘เสือซุ่ม’ เหมือนที่เพื่อน ๆ เรียกเสียมากกว่า
ถ้าจะทำใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้คงต้องจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน หรือไม่ก็บริษัทแล้วแหละมั้งแม่พูดเปรย ๆ
ถ้าอ่านแล้วชื่นชอบก็อย่าลืมกดหัวใจให้ด้วยเด้อครับ