ความฝันของเราทั้งคู่คือการได้แต่งงานกัน ทุกอย่างใกล้ความเป็นจริงแล้ว แต่สุดท้าย...มันกลับกลายเป็นเพียงฝันตื่นหนึ่ง
รัก,ดราม่า,ชาย-ชาย,เรื่องสั้น,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เมื่อคืนฉันฝันว่าเรา...แต่งงานกัน Last night dreamความฝันของเราทั้งคู่คือการได้แต่งงานกัน ทุกอย่างใกล้ความเป็นจริงแล้ว แต่สุดท้าย...มันกลับกลายเป็นเพียงฝันตื่นหนึ่ง
เจแปนกับกุญแจซอลเป็นว่าที่เจ้าบ่าวทั้งสองคนกำลังจะเข้างานวิวาห์ในอีกสามเดือนข้างหน้า ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยหมดแล้ว แต่กลับไม่สามารถทำมันให้เสร็จสมบูรณ์ได้เพราะหนึ่งในว่าที่เจ้าบ่าวหายไป...ตลอดกาล
"ความฝันของเราทั้งคู่คือการได้แต่งงานกัน ทุกอย่างใกล้เป็นความจริง แต่สุดท้าย...มันกลับกลายเป็นเพียงฝันตื่นหนึ่ง"
#เมื่อคืนฉันฝันว่า
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิด บทความ เนื้อหา รูปภาพประกอบ ภายในหนังสือเล่มนี้ ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อด้วยรูปแบบหรือกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือการนำส่วนใดส่วนหนึ่งของเนื้อหาจากหนังสือเล่มนี้ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ว่าจะทางพาณิชย์หรือไม่ก็ตาม ยกเว้นเพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับหนังสือเท่านั้น หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมายโดยมีโทษสูงสุด
บทที่ 1 เตรียมงานแต่ง
กระจกสีใสรายล้อมนับสิบบาน แสงแดดยามบ่ายคล้อยสอดส่องเข้ามาภายใน ตกกระทบลงบนพื้นยิ่งเสริมให้ชายหนุ่มในชุดสูทที่กำลังหมุนตัวอย่างช้า ๆ ดูสง่าผ่าเผยกว่าที่เคย
กุญแจซอลกำลังลองชุดอยู่ในร้านเวดดิ้ง
ภายในตกแต่งด้วยดอกไม้ปลอมสีขาวสะอาด สอดแทรกด้วยดอกสีเหลืองและชมพูสลับกันไป สไตล์ร้านเป็นแนววินเทจดูเรียบง่ายแต่กลับเพิ่มเสน่ห์ได้มากทีเดียว
เจ้าของร้านและลูกจ้างอีกสามคนจับชายหนุ่มร่างบางให้หันตัวตามที่ตนต้องการเพื่อสำรวจชุดที่ลูกค้ารายนี้กำลังสวมใส่ สายตาไล่สำรวจมองหารอยตำหนิเพื่อเร่งแก้ไขให้ทันกำหนดงานสำคัญที่ใกล้มาถึงนี้
"ตรงเอวรบกวนเอาออกอีกนิดได้ไหมครับ ช่วงนั้นน่าจะอ้วนขึ้นอีก" คนตัวเล็กเอ่ยบอกกับช่างประจำร้านเสียงใส
"ได้ค่ะ" เธอตอบรับพร้อมกับรอยยิ้มเล็กน้อย โดยปกติแล้วเธอมักจะได้ยินคำว่า 'เอาเข้าอีก...วันแต่งคงจะผอมกว่านี้' อยู่เสมอ แต่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคนนี้กลับบอกให้ขยายมันออกอีก หุ่นบางร่างเล็กขนาดนี้จะมีน้ำมีนวลขึ้นภายในเดือนสองเดือนได้จริงหรือ เธอนึกสงสัยและเอ็นดูในคราวเดียวกัน
"อ้วนตรงไหน...หื้ม" บุคคลมาใหม่เดินเข้าร่วมในวงสนทนาก่อนจะยิ้มหวานให้ร่างบางของตนอย่างที่เคยทำ
เขาอยู่ในชุดสูทเช่นเดียวกับคนตรงหน้า ต่างแค่ตนใส่สีดำและอีกฝ่ายใส่สีขาว ท่อนขายาวก้าวมาหยุดยืนด้านหน้าคนรัก สายตาลอบสำรวจทุกกระเบียดนิ้วตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้า แน่นอนว่ามีเพียงคำ ๆ เดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวของเจแปน
สวย
"ไม่อ้วนหรอก แต่พุงซอลมันออกไง" กุญแจซอลเอ่ยบอกด้วยท่าทีง้ำงอ เขาไม่ใช่คนที่มีน้ำมีนวลเท่าไหร่นัก เรียกว่าแห้งก็คงไม่ผิด แต่ทุกครั้งที่ต้องการเพิ่มเนื้อส่วนนั้นมันกลับไปลงที่พุงน้อย ๆ นี่สิ ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วเหมือนกัน
"เดี๋ยวพาออกกำลังกายไง" คนตัวสูงดันหน้าเข้ามาใกล้อีกคนอย่างเคยชินพร้อมเอ่ยกระซิบประโยคที่มันดูกำกวมสำหรับคนฟัง
"ทะลึ่ง!" ฝ่ามือบางฟาดลงบนต้นแขนของคนรักทันทีพร้อมถลึงตาใส่คล้ายแมวหัดขู่ เพราะความหมายที่ตนเข้าใจในประโยคนั้นคือเรื่องใต้สะดือ
เจ้าบ้านี่
"ทะลึ่งอะไร เธอนั่นแหละทะลึ่ง แค่จะพาไปวิ่งมันทะลึ่งตรงไหน...หื้ม" อีกคนเอ่ยหน้าตายียวน เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับสอดมือล้วงเข้าในกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างด้วยท่าทางสบาย ๆ ทำให้ร่างบางตรงหน้ารับรู้ว่าโดนแกล้งเข้าเสียแล้ว
กุญแจซอลยู่หน้าเมื่อถูกแกล้ง เรียกเสียงหัวเราะน้อย ๆ จากผู้คนรอบข้างได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนตรงหน้าที่นึกเอ็นดูความใสซื่อนี้ที่มีมาตั้งแต่แรกและไม่เคยหายไปตั้งแต่ได้รู้จักกัน
ตัวแค่นี้จะน่ารักไปถึงไหนกันนะ
"ของเธอเสร็จแล้วเหรอ"
"ครับ...เสร็จแล้ว เธอล่ะ"
ร่างบางหันไปหาช่างเพื่อส่งคำถามทางสายตาและได้รับรอยยิ้มเป็นคำตอบ "เรียบร้อยแล้วค่ะ"
"ได้ชุดวันไหนครับ"
"อีกประมาณสองสัปดาห์มาดูอีกทีว่าต้องแก้ตรงไหนบ้าง ถ้าไม่มีก็รับกลับไปได้เลยค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นพวกผมขอตัวก่อน แล้วพบกันใหม่ครับ" ว่าจบก็กอบกุมมือบางของคนรักให้เดินขนาบข้างตนไปผลัดเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมตัวกลับที่พักในช่วงเวลาบ่ายคล้อย
เจ้าของร้านรวมทั้งช่างตัดชุดมองตามว่าที่เจ้าบ่าวทั้งสอง พวกเขาดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก คนตัวเล็กก็มีใบหน้าหวานจิ้มลิ่มน่าเอ็นดู เผยรอยยิ้มครานึงแทบไม่เห็นลูกตา เสียงหวานก็เจื้อยแจ้วอยู่ตลอดเวลา
ส่วนอีกคนที่ตัวสูงและเรือนกายที่หนากว่าก็ดูสุขุม น่ายำเกรง ดูมีความเป็นผู้นำ แต่เมื่อได้พูดคุยกับคนตัวเล็กก็เหมือนจะเปลี่ยนเป็นคนยิ้มง่ายในทันที
ทั้งสองคนเดินคู่กันมาตั้งแต่ในร้านจนถึงลานจอดรถที่อยู่ใกล้กัน มีเสียงพูดคุยของคนตัวเล็กตลอดทาง เพราะเป็นคนนิสัยร่าเริงชอบพูดจาเป็นปกติและคนข้างกายก็ชอบที่จะได้ยินมันจึงไม่ได้เอ่ยคัดค้าน
"หิวไหม?" คนขับรถจำเป็นเอ่ยถามอีกฝ่ายเมื่อเข้ามาอยู่ในตัวรถเรียบร้อยแล้ว
"หิวอะไร เพิ่งกินก่อนมาร้านเองนะ" กุญแจซอลเอียงศีรษะเล็กน้อยพลางเลิกคิ้วขึ้น นั่นเป็นความจริง พวกเขาเพิ่งแวะร้านอาหารใกล้ ๆ ก่อนตรงมาที่นี่เมื่อชั่วโมงกว่า ๆ เอง อาหารที่ทานไปยังย่อยไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ
"ก็อยากให้เธอกินเยอะ ๆ ผอมมากเลยรู้ตัวไหมครับ?" เขาไล้หลังมือไปตามโครงหน้าหวาน เหม่อมองใบหน้านั่นอย่างหลงใหลแม้จะมองมาตลอดห้าปี ตั้งแต่หน้าผาก คิ้ว ดวงตา จนมาถึงแก้ม อดใจไม่ไหวต้องยื่นมือไปหยิกมันเบา ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
"รู้สิ แต่กินเท่าไหร่มันก็ไม่อ้วน มีแต่ลงพุง ๆ " คนตัวเล็กเบะปากบ่นเหมือนเด็กน้อยที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจพลางก้มมองหน้าท้องของตัวเองที่นูนออกมานิด ๆ
น่าฟัดให้ยุบเสียจริง
"ก็บอกแล้วว่าจะพาออกกำลังกาย" เขาเปลี่ยนตำแหน่งของมือไปที่ ๆ อยู่สูงกว่า ฝ่ามือหนาลูบศีรษะทุยเบา ๆ เหมือนกำลังกล่อมเด็กน้อยให้หยุดร้องไห้อย่างไรอย่างนั้น
"วิ่งเหรอ ที่ไหน" กุญแจซอลถามตาใสแจ๋ว ถึงมันจะเหนื่อยที่ต้องวิ่งนาน ๆ แต่เขาก็อยากให้พุงมันยุบลงไปอีกหน่อย เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะถึงวันสำคัญของพวกเขาแล้ว
วันนั้นเขาต้องดูดีที่สุด!
"ที่ห้องครับ"
"หือ?" ร่างบางบนเบาะข้างคนขับมีสีหน้าสงสัย อะไรกัน...ก็ในเมื่อเขาอยู่ในเพนท์เฮาส์และที่ห้องก็ไม่มีเครื่องออกกำลังกายเลยสักชิ้น แล้วเขาจะวิ่งได้อย่างไร
ไต่กำแพงเอาหรือ...
"หึ" คนตัวสูงกว่าส่งเสียงในลำคอพลางยกยิ้มเบา ๆ กับท่าทางที่แสนจะน่ารักน่าเอ็นดูของคนรัก
ไม่กี่วินาทีต่อมาคนตัวเล็กก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อถูกอีกคนจู่โจมอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากบางเฉียบเผลออ้าออกเพราะตกใจกับการกระทำของคนตรงหน้า จึงเป็นการเปิดโอกาสให้เจแปนได้ลุกล้ำเข้ามาด้านใน กวาดต้อนเอาน้ำหวานมาชิม
หวานเสียจนห้ามใจไม่อยู่
ก่อนจะฉุกคิดขึ้นได้ว่านี่มันในรถนะ
แต่เมื่อได้รับสายตาที่ดูเหมือนกำลังจะอ้อนขอของอีกคนก็ได้แต่จำยอม
คงไม่มีใครเห็นหรอก...มั้ง
ดวงตาหวานปิดลงเมื่อรสสัมผัสที่ริมฝีปากนั้นหวานจนเกินห้ามใจ เเขนเรียวยกขึ้นคล้องคออีกคนไว้หลวม ๆ อย่างว่าง่าย ฝ่ามือบางลูบลำคอคนที่มอบจูบรสล้ำตรงหน้านี้เเผ่วเบา
มือหนาข้างหนึ่งเชยคางคนตัวเล็ก ออกแรงบีบเบา ๆ เพื่อเป็นสัญญาณว่าต้องการให้อีกคนเปิดริมฝีปากออกมากกว่านี้
กุยแจซอลไม่อิดออด
ร่างหนายกยิ้มเมื่อถูกตามใจ เลื่อนมืออีกข้างลงไปบีบเอวคอดของคนรักอย่างหมั่นเขี้ยวพร้อมกับสอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากของอีกคน เกี่ยวกระหวัดอย่างที่เคยทำจนชินชำนาญ ก่อนจะถูกคนใต้ร่างดันลิ้นสู้จึงปะทะกันอยู่พักใหญ่
เมื่อจูบจนพอใจในสัมผัสแล้ว จึงเปลี่ยนตำแหน่งริมฝีปากมาที่ลำคอขาว กุญแจซอลหลับตาพริ้มพร้อมสูดหายใจหอบจนอกกระเพื่อม รู้สึกถึงการขบเม้มเบา ๆ ให้พอเกิดรอยแดงเป็นจ้ำอยู่สองสามจุดและสลับมาสร้างรอยอีกข้างให้เท่าเทียมกัน
"อื้อ...เจ" ร่างบางเผลอส่งเสียงออกมาแผ่วเบาเมื่อรู้สึกได้ถึงความวาบหวิวที่หน้าท้อง คนตัวสูงกว่าใช้มือลูบไล้มันด้วยความถนอม
"เธอ...พอก่อน" มือบางผละออกจากลำคอหนา เปลี่ยนตำแหน่งมากอบกุมมือของคนรักไว้แน่นเมื่อมันใกล้จะลงลึกเข้าไปในกางเกงยีนส์แทนที่เสื้อยืดสีครีมของตัวเอง
"ไม่อยากพอเลย..." น้ำเสียงทุ้มขาดห้วง เจแปนผละออกจากซอกคอขาวที่ตอนนี้มันแดงเถือกจนแทบไม่หลงเหลือสีเก่า แต่มือยังคงวางอยู่ที่เดิมไม่ละไปไหน วนเวียนลูบไล้สัมผัสอยู่แบบนั้น
"พอก่อน...ไม่ทำในรถ" กุญแจซอลจับมือหนาของอีกคนขึ้นมาแนบแก้มใส ดวงตาปิดลงเป็นการอ้อนเหมือนทุกที
"ทำไมครับ"
"เดี๋ยวมีคนเห็น"
"ขอความจริง"
"...มันปวดหลัง" คนตัวสูงยิ้มขำให้คนรักกับท่าทีเขินอายนั้น ทั้งหน้าทั้งหูแดงเรื่ออย่างน่าเอ็นดู
ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้นะ
หลงไม่ไหวแล้วกุญแจซอล
"ทำไงดี เมียโคตรน่ารักเลย" เอ่ยหยอกอีกคนให้ขวยเขินกว่าเดิม แต่คน ๆ นี้เวลาเขินก็ชอบที่จะลงไม้ลงมือตลอดเลย
เพี๊ยะ!
น่าจะแดงอยู่ไม่ใช่น้อย
แสงสีส้มบนฟ้าบ่งบอกว่าพระอาทิตย์กำลังโบกมือลาเพื่อกลับไปพักผ่อนและอีกไม่นานพระจันทร์ก็คงจะเคลื่อนมาแทนที่
ภายในเพนท์เฮาส์หรู มีเฟอร์นิเจอร์วางเรียงรายเป็นระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวก ผนังสีเบจทำให้ดูสบายตาทุกครั้งเมื่อมอง ภายในถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวที่อยู่ฝั่งขวายามเปิดประตูเข้ามา ห้องนั่งเล่นที่ดูจะใหญ่เกินไปสำหรับสองคน สระว่ายน้ำส่วนตัวหลังประตูกระจกใส ชั้นสองก็เป็นห้องอาบน้ำและห้องนอนที่ทั้งสองคนใช้เวลาด้วยกันมากที่สุด
"ขึ้นมาได้แล้วมั้ง เย็นมากแล้วซอล" คนตัวสูงเดินออกมาจากห้องครัวที่ตนเพิ่งจะลงมือทำอาหารเย็นเสร็จไป ขายาวตรงดิ่งมายังร่างบางที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในสระราวกับตัวเองมีครีบเหมือนสัตว์ในเทพนิยาย
"อีกหน่อยไม่ได้เหรอ" คนในสระว่ายเข้ามาเกาะที่ขอบพร้อมเอ่ยเสียงอ้อน ถึงแม้ว่าตนจะลงเล่นมานานเกือบชั่วโมงแล้วก็ตาม แต่เขายังสนุกอยู่เลยนี่นา ขอต่อเวลาอีกสักหน่อยไม่ได้หรืออย่างไร
"เดี๋ยวจะไม่สบายนะครับ" คนตัวสูงทรุดตัวลงที่ขอบสระโดยแทรกตัวอยู่ระหว่างคนตัวเล็กที่ใช้ท่อนแขนเกาะขอบไว้อยู่ก่อนแล้ว
กุญแจซอลเคลื่อนตัวเข้าใกล้อีกฝ่าย วางแขนไว้บนขาแกร่งแล้วทิ้งใบหน้าลงมาที่หลังมือตนเอง ช้อนตามองคนด้านบนอย่างออดอ้อน จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นอย่างมีเลศนัยพลางกัดริมฝีปากน้อย ๆ มุกนี้ใช้ได้ผลเสมอเมื่อเขาต้องการสิ่งใด แต่มักจะใช้ไม่ได้กับการขอต่อเวลาในสระว่ายน้ำที่แสนสบายแห่งนี้
"ไม่ต้องมาอ้อนเลย"
ครั้งนี้ก็เช่นกัน
ร่างบางในสระเบะปากพองลมในแก้มเมื่อถูกขัดใจ ไม่บ่อยหรอกที่อีกคนจะขัดใจกัน ก็เข้าใจอยู่ว่าเป็นห่วง แต่ของอแงหน่อยได้ไหมเล่า
"หงอยอีกแล้ว เล่นนาน ๆ จะไม่สบาย เป็นห่วงนะรู้ไหม" ฝ่ามือหนาลูบศีรษะของอีกฝ่ายอย่างนึกเอ็นดู รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากเมื่อคนในสระเอียงซบใบหน้าลงบนหน้าขาตนพลางถูไถคล้ายลูกแมวน้อยกำลังออดอ้อนเอาใจเจ้าของ
ก็เป็นเสียอย่างนี้...แล้วเขาจะไปไหนรอด
กว่าจะพากุญแจซอลขึ้นจากสระว่ายน้ำได้ก็กินเวลาไปอีกกว่าสิบนาที มิหนำซ้ำเขายังเปียกไปทั้งตัวเพราะคิดไม่ถึงว่าคนรักจะแกล้งกันโดยการรั้งแขนเขาลงไปในสระด้วยกัน
ใบหน้าหวานยกยิ้มชอบใจ และแน่นอนว่าคนแกล้งต้องถูกทำโทษ
ในสระเขาก็ไม่เกี่ยงหรอกนะ
มื้อค่ำผ่านไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มเหมือนอย่างเคย แม้มีเพียงแค่กันและกันสองคนแต่กลับไม่เคยรู้สึกว่ามันเงียบเหงา กลับกันพวกเขาคิดว่านี่เสียอีกคือความสุข ได้ใช้เวลาร่วมกัน ทานอาหารด้วยกัน หลับนอนและร่วมรักกัน
เป็นความสุขที่มากเกินกว่าจะบรรยายได้
"วันนี้ดูหนังไหม" เจแปนเอ่ยถามคนรักที่เพิ่งเสร็จธุระจากห้องน้ำ เขายกยิ้มบางพลางยกมือตบปุ ๆ พื้นที่ว่างบนเตียงข้างกาย
กุญแจซอลสาวเท้าอ้อยอิ่งพาร่างบอบบางของตนทรุดลงนั่งข้างกายคนรักที่อ้าแขนรออยู่ก่อนแล้ว เขาเอียงศีรษะซบแผ่นอกหนา ถูไถไปมาอย่างออดอ้อนเช่นทุกครั้ง ท่อนแขนเล็กก็โอบรัดรอบเอวสอบไว้แน่นสร้างเสียงหัวเราะเอ็นดูจากเจแปนได้ดีทีเดียว
"ขี้เกียจดู" ร่างบางบนตัวเอ่ยบอกเสียงยาน ดวงตาก็ปิดพริ้มลงแต่ยังคงมีรอยยิ้มบางปรากฏ ลมหายใจผ่อนเข้าออกเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
"เเธอง่วงแล้วเหรอ"
"อื้ม...อยากนอนกอดเธอ"
ริมฝีปากหนาหยัดยิ้มขึ้นที่มุมปากก่อนจะก้มลงจรดมันบนลุ่มผมนุ่มนิ่ม "งั้นมานอนกันครับ"
เจแผนยืดกายไปปิดโคมไฟที่หัวเตียงแล้วตวัดผ้าห่มผืนหนาขึ้นคลุมทั้งตัวเองและคนรักจนมิดชิด ท่อนแขนก็ตระกองกอดกุญแจซอลไว้แนบแน่น กอดรัดไว้คล้ายกับไม่ต้องการให้คนตรงหน้านี้หลุดลอยไปไหนไกล
ไม่ต้องการ
#เมื่อคืนฉันฝันว่า
เปิดมาบั่บโรแมนซ์ หวานหยดย้อยให้กระชุ่มกระชวยหัวใจจจ
TW : daojxncute000