การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
        แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี,  นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
        
        
      
          
 ผู้พิชิต... 
 
 ...ชีวิตจักมอบให้แก่ผู้พิชิตเท่านั้น จงอย่ายอมรับสิ่งที่ได้มาจากการยอมแพ้
 
 ถ้าหากเรากำจัดผู้ล่าออกไป ระบบนิเวศทั้งหมดจะพังทลายลงอย่างรวดเร็ว สมดุลของผู้ล่าและเหยื่อจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง 
 
 สำหรับมนุษย์แล้วการล่า อาจหมายถึงการบ่งบอกถึง 'อำนาจ' ของตน มันมีมาอย่างช้านานในทุกยุคทุกสมัย การล่าสัตว์เพื่อความบันเทิง ซึ่งจะแสดงถึงฐานะที่ยิ่งใหญ่ของผู้ล่า 
 
 แต่ในธรรมชาติการล่าคือการหาอาหารของสัตว์นักล่า มันคือหนึ่งในองค์ประกอบหลักของระบบนิเวศ
 
 
 
 อลัน รู้และเข้าใจความเป็นไปของธรรมชาตินี้เป็นอย่างดี เด็กหนุ่มมุ่งมั่นมองออกไปนอกทุ่งกว้างอย่างแน่วแน่ สายตาที่จดจ้องไปยังสนามของผู้ล่า พื้นที่แห่งนี้ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด เฉกเช่นโลกใบนี้มันคือความจริงของวัฎจักรตามธรรมชาติ ด้วยมันสมองและสติปัญญาของมนุษย์ นั่นคือสิ่งที่จะช่วยให้เราอยู่เหนือกฎเกณฑ์นี้ 
 
 ประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากการล่าสัตว์กับตาของเขา สัญชาตญาณของนักล่าที่แอบแฝงอยู่ในตัว ทำให้อลันคิดแผนการขึ้นมาจากการสังเกตสถานการณ์โดยรวมทั้งหมด ภายในพื้นที่นี้มีผู้ล่าเจ้าถิ่น คือจากัวร์เขี้ยวดาบ การที่จะออกล่าเหยื่อในขณะที่มีมันอยู่ด้วยนั้น จะต้องทำตัวประหนึ่งเป็นผู้ล่าเช่นเดียวกับมัน ตัวอย่างที่แม่ทัพได้แสดงให้เห็น คือการที่มนุษย์เราไม่เข้าไปขวางทางระหว่างผู้ล่าและเหยื่อ
 
 กลุ่มของทหารที่ดักซุ่มรออยู่นั้น ต้องอาศัยอยู่ใต้ลมเพื่อไม่ให้เจ้าถิ่นนั้นได้กลิ่น รอจังหวะที่มันออกไล่ล่าและไล่ต้อนฝูงกระทิง ไปจนกว่าจะเจอเป้าหมายที่เหมาะสม กระทั่งทำการล่าได้สำเร็จ
 
 
 
 " ผมสังเกตเห็นว่า รอบนอกของทุ่งกว้างมีบางอย่างตั้งอยู่ เคนเนทเห็นอะไรบ้างไหม " อลันเอ่ยถาม 
 
 " ฉันเห็นเหมือนกับว่า มันจะเป็นเครื่องยิงอะไรซักอย่างที่ตั้งเอาไว้รอบๆเขตแดนของทุ่งหญ้านะ ตรงจุดที่น่าจะเป็นที่สำหรับเฝ้าเวรยาม " เคนเนทตอบ 
 
 " เข้าใจแล้วครับ " 
 
 จุดเฝ้าระวังมีเครื่องมือที่ถูกติดตั้งไว้ มันคือเครื่องยิงธนูหน้าไม้ชนิดหนึ่ง มันใหญ่พอที่จะล้มวัวกระทิงหนึ่งตัวได้เลย จากการบอกเล่าของหลายคนที่เห็นเช่นเดียวกันนั้น อลันจึงสรุปแผนการในการล่าครั้งนี้ขึ้นมา ในบริเวณทุ่งกว้าง จะมีบริเวณที่ติดกับชายแดนซึ่งเป็นช่องแคบ และมีเครื่องยิงธนูถูกติดตั้งเอาไว้หลายเครื่องในจุดนี้เอง 
 
 แผนการคือ การไล่ต้อนวันกระทิงให้เข้าไปสู่จุดที่ใกล้กับเครื่องยิงในช่องแคบมากที่สุด และสามารถจู่โจมเป้าหมายได้สำเร็จ 
 
 กลุ่มของผู้เข้ารับการทดสอบ จึงถูกแบ่งออกเป็นหน่วยต่างๆคือ 
 
 กลุ่มไล่ต้อนเป็นกลุ่มที่ต้องระวังอันตรายจากจากัวร์และคอยหาจังหวะในการไล่เป้าหมายที่เหมาะสมให้เข้าสู้เส้นทางที่วางแผนไว้
 
 กลุ่มสังเกตุการณ์คือ กลุ่มที่คอยสังเกตความเป็นไปของสนามผู้ล่า และเฝ้าระวังความปลอดภัยซึ่งทำงานร่วมกับมีร่า คณะกรรมการผู้คอยเฝ้าดูอยู่พร้อมกับทหารที่ลาดตระเวนอยู่นอกค่าย เผื่อกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด 
 
 กลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มที่คอยประจำอยู่ตามจุดต่างๆของเครื่องยิงธนูหน้าไม้ในเส้นทางที่ถูกกำหนดเอาไว้ และเป็นกลุ่มที่จะปิดจบแผนการณ์ล่าในครั้งนี้
 
  " พร้อมไหมทุกคน " อลันเอ่ยถามพร้อมกับมองหน้าเหล่าผู้เข้ารับการทดสอบ ที่ถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มๆตามแผนการที่วางเอาไว้ 
 
 " พร้อม! " เคนเนทยื่นมือเข้าหาเพื่อนทั้งสองที่ล้อมวงเข้ามา อลันและคริสตัลต่างวางมือลงบนหลังมือของเพื่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนจับมือประสานกันเพื่อความสามัคคี " พร้อม! " 
 
 " ระวังตัวด้วยนะ ทั้งสองคน " คริสตัลพูดด้วยความเป็นห่วงเด็กหนุ่มทั้งสองที่ต้องเข้าสู่สนามนักล่าในครั้งนี้ เธอเป็นคนที่คอยสังเกตการณ์อยู่บริเวณค่ายในที่สูงของหอเฝ้าระวังด้วยกล้องส่องทางไกล และคอยส่งสัญญาณในการเริ่มต้นออกล่าสัตว์ 
 
 ระหว่างที่ทุกคนกำลังวางแผนกันอยู่นั้น มีเพียงแค่กลุ่มของลาพิสและคาอิมเท่านั้นที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในครั้งนี้ คริสตัลมองเห็นลาพิส พี่สาวของตนเดินกลับมาจากทุ่งหญ้ากว้างด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด เนื้อตัวดูมอมแมม " ไอ้บ้านั่นกล้าดียังไง! มาใช้ฉันทำแบบนี้ " พร้อมด้วยเสียงกร่นด่าของเธอ และเดินจากไปโดยไม่สนใจแผนการของพวกอลันเลย 
 
 ' พี่ลาพิส วางแผนอะไรกันอยู่นะ ' คริสตัลนึกขึ้น
 
 
 
 ในระหว่างนั้นกลุ่มของผู้ที่ประจำการอยู่ที่เครื่องยิงธนู กำลังเดินเข้าสู่ตำแหน่งของตน อลันเห็นว่าบรู๊คที่เป็นคนติดตามลาพิสนั้น มารออยู่ก่อนแล้วทั้งๆที่ไม่ได้วางแผนนัดแนะกัน แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ
 
 ตำแหน่งเครื่องยิง ชูแขนยกนิ้วเป็นสัญญาณให้กับกลุ่มของผู้ไล่ต้อนว่าพร้อมประจำตำแหน่ง 
 
 ' ลูกธนูนี่คงยิงได้แค่รอบละครั้งเดียวเท่านั้น ' อลัน คิดคำนวนการเติมลูกดอกธนูเข้าไปใหม่คงใช้เวลานานเกินไป หากฝูงกระทิงวิ่งผ่านตำแหน่งไปคงหมดโอกาส ถ้ายิงพลาด 
 
 กลุ่มไล่ต้อนถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือกลุ่มหลักที่คอยไล่ท้ายฝูง และกลุ่มรองที่คอยเปลี่ยนเส้นทางให้เป็นไปตามแผน 
 
 เมื่อทุกกลุ่มเข้าประจำที่แล้ว กลุ่มเฝ้าระวังจะคอยให้สัญญาณในการเริ่มต้น หลังจากที่ผู้ล่าเจ้าถิ่นออกจู่โจมเหยื่อ รอในตำแหน่งเหมาะสมที่ทิศใต้กระแสลม 
 
 สายลมพัดผ่านยอดหญ้าปลิวไสว ผู้ล่าก้าวย่างเดิน สายตาของมันจับจ้องไปที่เป้าหมาย รอจังหวะที่เหมาะสม และแล้วเกมการล่าก็เริ่มต้นขึ้น เสือจากัวร์ออกวิ่งไล่ฝูงวัวกระทิงในขณะนี้ 
 
 กลุ่มผู้เฝ้าระวังจึงยกมือขึ้นให้สัญญาณในทันที 
 
 " พวกเราลุย!! " เคนเนทชูมือขึ้นออกวิ่งนำกลุ่มไล่ต้อน ฝีเท้าของเหล่านักล่าเด็กหนุ่มตะกุยฝุ่นฟุ้งขึ้นมา พวกเขาไล่ตามเสือจากัวร์ไป นักล่าเจ้าถิ่นที่เห็นมนุษย์กลุ่มใหญ่ไล่ตามมา มันจึงหาเป้าหมายของมันและผละตัวออกจากฝูงวัวกระทิง ตามสัญชาตญาณในทันใด
 
 เปิดโอกาสให้ผู้เข้ารับการทดสอบทั้งหลาย ดำเนินตามแผนการที่ตั้งใจไว้ 
 
 ' เยี่ยม! สำเร็จแน่คราวนี้ ' เคนเนทนึกขึ้นพร้อมด้วยความฮึกเหิม อีกกลุ่มเข้ามาสมทบเพื่อต้อนฝูงกระทิงไปยังเส้นทาง 
 
 เบื้องหน้าหน่วยจู่โจมกำลังเตรียมตัวพร้อม แผนกลยุทธ์นี้ยอดเยี่ยมลงตัวจริงๆ 
 
 
 
 แต่ทันใดนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เด็กหนุ่มผู้ซุ่มโจมตีฝูงวัวกระทิงอยู่ก็ปรากฏตัวขึ้น คาอิมกระโจนขึ้นจากผืนดินที่ใช้พุ่มไม้พรางตัวไว้ ปิดใบหน้าไว้ด้วยผ้าอย่างมิดชิด พร้อมด้วยดาบเล่มยาว 
 
 เข้าจู่โจมวัวกระทิงตัวโตเต็มวัยอย่างฉับพลันทันที " ฉึก! " ดาบยาวแทงเข้ากลางลำคอของกระทิงตัวใหญ่อย่างแม่นยำ เขาถีบตัวออกจากวัวกระทิงเพื่อหลบเลี่ยงอันตรายอย่างว่องไว 
 
 " ฟิ่วว... ฉึก!! " ลูกดอกของเครื่องยิงธนูถูกยิงตามออกมาในทันควัน บรู๊คเล็งยิงได้เข้าเป้า 
 
 วิธีการล่าสัตว์ของชนเผ่าทะเลทราย เป็นวิธีการที่อันตรายมาก ต้องอาศัยผู้ที่มีฝีมือ ว่องไวและความอดทนยอดเยี่ยม ถึงแม้เขาจะเป็นเด็กหนุ่ม แต่คาอิมคือผู้พิชิตที่ฝึกฝนตนเอง จนได้รับการยอมรับจากชนเผ่าควาคู รอยสักบนหัวไหล่นั่นคือเครื่องหมายยืนยัน
 
 " อะไรวะนั่น!! " เคนเนทที่ไล่ต้อนฝูงกระทิงมา ต้องตกใจตาเบิกโพลงขึ้น 
 
 " ตึง!! " ไบซันตัวใหญ่ล้มลงเสียงดังสนั่น ผลลัพธ์ที่ตามมาคือการแตกฝูงเพราะความตื่นตระหนกของทั้งฝูง กระทิงตัวเต็มวัยล้มลงหน้าฝูง ทำให้สัญชาตญาณในการเอาตัวรอดของพวกมันพลุ่งพล่าน แต่ละตัวต่างวิ่งเอาตัวรอดกันจ้าละหวั่น 
 
 และเป็นผลให้แผนการที่วางเอาไว้พังพินาศลงในทันทีทันใด
 
 " เวรแล้ว! " เคนเนทอุทานขึ้นเสียงดัง สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือวัวกระทิงหลุดฝูงหลายตัวกำลังพุ่งเข้าใส่เครื่องยิงธนูที่มีอลันคอยประจำการอยู่ 
 
 " แย่แล้ว! คุณมีร่าคะ!! " คริสตัลที่จับตาดูสถานการณ์อยู่ตะโกนขอความช่วยเหลือ มีร่าไม่รั้งรอที่จะเข้าสู่สนามเพื่อกู้สถานการณ์อย่างทันท่วงที แต่ระยะทางก็ไกลเกินกว่ามีร่าจะเข้าถึงตัวอลันได้ในทันที
 
 " หลบเร็วเข้า อลัน!! " เคนเนททิ้งอาวุธวิ่งเข้าหาเพื่อนในอึดใจเดียว 
 
 
 
 ' มีโอกาสเดียวเท่านั้น ' อลันคิดในใจ ความมุ่งมั่นบวกกับสมาธิอันแรงกล้า สัญชาตญาณผู้ล่าในตัวของเขา ปลุกพลังให้กับอัญมณีสีแดงของผู้พิชิตตอบรับ เครื่องยิงธนูที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอาวุธให้แก่กองทัพ ติดตั้งอัญมณีสำหรับเสริมพลังในการยิง 
 
 แสงสว่างสีแดงส่องแสงเป็นประกายขึ้น ในพริบตาเดียวนั้น " ฟุ่บ!! " ลูกดอกออกจากร่องยิงด้วยความไวและรุนแรง " ฉึก!! " 
 
 เข้าเป้าอย่างแม่นยำ ลูกธนูโดนเข้ากลางแผ่นอกของกระทิงเต็มๆตรงจุดตาย " ตึง!! " มันกลิ้งคะมำล้มลง
 
 " สำเร็จ! " เด็กหนุ่มยืนขึ้นดีใจ จนไม่ทันได้สังเกตว่ากระทิงที่เหลือกำลังพุ่งตรงมาหาตัวเองในตอนนั้น 
 
 " หลบเร็ว!! " เคนเนทวิ่งเข้ามาอย่างไม่คิดชีวิต คว้าเอาตัวอลันเอาไว้ในทันที ทั้งคู่ล้มกลิ้งกระเสือกกระสนพลันเข้าหลบหลังต้นไม้ใหญ่ในบริเวณนั้น 
 
 วัวกระทิงแตกฝูงวิ่งเข้าชนเครื่องยิงธนูพังเละเทะไม่มีชิ้นดี แผนการที่วางเอาไว้พังทลายลงในพริบตา 
 
 
 
 " พวกเธอเป็นอะไรไหม " มีร่าเข้ามาถึงจุดเกิดเหตุ 
 
 " บ้าเอ๊ย! อลัน ทำไมไม่รีบหลบ " เคนเนทอุทานขึ้น 
 
 " ขอโทษครับ ผมตั้งใจมากไปหน่อยจนลืมดูรอบข้าง " 
 
 ธงขอความช่วยเหลือถูกยกขึ้นทั่วสนาม เหล่าทหารและมีร่าต่างเข้าช่วยทุกคน ภายหลังเหตุการณ์ชุลมุนที่เกิดขึ้น แสงสุดท้ายของวันสิ้นสุดลง ไปพร้อมกับการทดสอบในรอบที่สอง โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บร้ายแรง
 
 
 
 และแล้วก็ถึงช่วงพลบค่ำที่ทุกคนมาร่วมตัวกันที่ค่าย เพื่อรอผลการตรวจนับคะแนน 
 
 " ทั้งสองคนเป็นอะไรหรือเปล่า บาดเจ็บตรงไหนไหม " คริสตัลเป็นห่วงเพื่อนเอ่ยถามขึ้น แต่ทว่าเคนเนทไม่ได้ยินเสียงของเธอเลยแม้แต่น้อย ด้วยความเดือดดาล เขาตรงดิ่งเข้าไปกระชากเสื้อของคาอิมในทันที 
 
 " มึงจะฆ่าทุกคนหรือไงวะ!! " เขาแผดเสียงดังจนความเงียบเข้ากลืนกินทุกคน ไม่มีใครกล้าเอ่ยคำพูดออกมา 
 
 เด็กหนุ่มจากชนเผ่าชำเลืองมองกลับอย่างเยือกเย็น
 
 " ยังจะมองหน้าอีก ขอสักทีเหอะวะ ! " เคนเนทง้างมือขึ้น " เคนเนท!! " เพื่อนทั้งสองพยายามห้ามปราม 
 
 
 
 " แกเป็นผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า " 
 
 " ว่าไงนะ? " 
 
 " ดูเหมือนว่าพวกแกทุกคนจะเข้าใจอะไรผิดไป นี่คือบททดสอบของผู้พิชิต จุดประสงค์หลักของการเป็นผู้พิชิตคือ พลังที่จะพิชิตทุกสิ่งบนพื้นพิภพนี้ 
 
 ผู้ล่าที่อยู่สูงสุดในห่วงโซ่ไง " 
 
 คาอิมพูดถูก จุดยืนที่แม่ทัพแม็กซ์เวลพยายามจะบอกกับพวกเขาก็คือ การที่จะเป็นผู้พิชิตหมายถึง ผู้ที่แสวงหาพลังเพื่อขึ้นไปสู่จุดสูงสุด แน่นอนว่าในสนามรบที่เดิมพันด้วยชีวิต ความผิดพลาดหมายถึงจุดจบ ผู้พิชิตที่ไร้ซึ่งพลังจะต้องพบกับความพ่ายแพ้
 
 ไม่ต่างจากนักล่า หากพวกมันพลาดย่อมหมายถึงชีวิต บางครั้งผู้ล่าก็กลายเป็นผู้ถูกล่าได้เช่นกัน เสือจากัวร์ถ้าหากการล่าของมันผิดพลาด โดนจู่โจมกลับโดยวัวกระทิงตัวใหญ่จนมันได้รับบาดเจ็บ การเอาชีวิตรอดของมันจะเป็นไปได้ยากขึ้น มันต้องอดอาหารเป็นอาทิตย์จนกว่าบาดแผลจะหายดีถึงจะออกล่าได้อีกครั้ง เลวร้ายกว่านั้นคือ การบาดเจ็บรุนแรงอาจจะทำให้มันกลายเป็นเหยื่อจากพวกนักล่าซากสัตว์ จำพวกหมาล่าเนื้อหรือแร้ง หรือแม้กระทั่งนักล่าประเภทอื่น 
 
 " ในธรรมชาติ ผู้ล่ามันไม่สนวิธีการหรอกนะ 
 
  ผู้ล่าก็แค่ต้องล่าให้ได้ ผู้ถูกล่าก็ต้องหนีเอาตัวรอด แล้วพวกแกล่ะ เป็นผู้ล่าหรือเหยื่อกัน " คาอิมพูดด้วยสายตาที่เย็นชาทว่าแฝงด้วยความจริงจัง
 
 " ไอ้บ้านี่... " เคนเนทสะอึกจนเถียงไม่ออก 
 
 " เขาพูดถูกเคนเนท พวกเราต้องเอาตัวรอดให้ได้
 
 ในการล่าสัตว์เราไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ทุกคนต้องพยายามเอาตัวรอด นักล่าเองก็เหมือนกัน " 
 
 อลันพูดขึ้น เขาเป็นคนที่เข้าใจสถานการณ์นี้ได้ดี 
 
 " อลัน... "
 
 " เออ! คราวหน้าถ้ามีเรื่องแบบนี้อีก ฉันสาบานจะซัดแกให้ร่วงเลย คาอิม! " เคนเนทปล่อยมือจากคาอิม และเดินจากไปด้วยความฉุนเฉียว
 
 " หึ.. " คาอิมเดินจากไปโดยไม่พูดอะไร 
 
 ไม่แปลกที่เคทเนทจะไม่ชอบหน้าคาอิม ทั้งลักษณะนิสัยที่ตรงกันข้าม และเรื่องราวในอดีต
 
 ครั้งหนึ่งในสงครามที่ผ่านมา พ่อและแม่ของเคนเนท เป็นผู้พิทักษ์ที่เข้าร่วมปกป้องชายแดนเมดิโอลัน และถูกฆ่าตายโดยฝีมือของทหารจากดาคาห์รี ซึ่งก็คือชนเผ่าควาคูในเวลานั้น เขาจึงเกลียดชาวดาคาห์รีและพวกชนเผ่ามาตั้งแต่ยังเด็ก
 
 ผลลัพธ์ของสงครามส่งผลกระทบในแง่ร้ายกับทุกคน ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ
 
 
 
 
 
 ในเวลาต่อมา ก็ถึงช่วงเวลานับผลคะแนน
 
 วัวกระทิงตัวเต็มวัย ตัวที่ใหญ่ที่สุดเป็นของทีมคาอิม 
 
 ' ใช้ดาบปักเข้าที่ลำคอ ตรงบริเวณหลอดลม วิธีการเดียวกับพวกเสือ จากนั้นจึงให้พลยิงธนู ยิงซ้ำจนแน่นิ่ง
 
 ฝีมือแบบนี้... เด็กจากชนเผ่ารึ ' แม่ทัพแม็กซ์เวลกำลังตรวจสอบวัวกระทิงตัวนั้น ในแว่บหนึ่งแววตาของเขาก็ดูเศร้าหมองลง พลางคิดคำนึงถึงเรื่องราวบางอย่าง เช่นเดียวกับมีร่าที่มองดูผู้บัญชาการของตน ทั้งสองต่างมีความทรงจำในอดีตที่เกี่ยวกับชนเผ่าควาคู 
 
 ' ส่วนตัวนี้ ลูกดอกธนูแทงทะลุคอด้านล่าง เสียบเข้าจุดตายตรงหัวใจ พลยิงแม่นมาก หรือแค่สบจังหวะพอดีกันแน่ ' แม็กซ์เวลสำรวจวัวที่กลุ่มของอลันล่ามาได้
 
 
 
 " เอาล่ะ คืนนี้พวกเจ้าคงต้องค้างคืนที่ค่ายของข้า มีร่าจะเป็นคนดูแลพวกเจ้าเอง " แม็กซ์เวลเอ่ยขึ้นเบาๆ เขาดูใจดีขึ้นมาก
 
 " รับทราบค่ะ " มีร่าตอบรับ 
 
 
 
 " ตามที่ได้บอกไว้ กระทิงตัวใหญ่เต็มวัย 100 คะแนน ส่วนที่เหลือคือ 60 และลูกกระทิง 10 คะแนน " 
 
 สรุปผลคะแนน 
 
 ทีมคาอิม 100 คะแนน ทีมอลัน 60 คะแนน 
 
 ทีมอื่นๆ 60/10 คะแนนตามลำดับ 
 
 
 
 " ทีมที่ล่าไม่ได้ถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรง ถ้าทุกคนเข้าใจดีแล้ว ก็เป็นอันสิ้นสุดการสอบในวันนี้ " 
 
 ทุกคนต่างเหนื่อยล้ามากในวันนี้ หมดแรงซะจนจะอ้าปากยังไม่ไหว เลยไม่มีใครทักท้วงอะไร 
 
 " คืนนี้ทุกคนจะต้องค้างคืนที่นี่ แต่ละทีมเชิญเลือกเต็นท์พักผ่อนได้ตามสะดวก ข้าจะให้ทหารเตรียมอาหารและน้ำดื่มให้ทุกคน 
 
 หลังจากพักผ่อนกันแล้ว ขอเชิญทุกคนมาร่วมทานอาหารกันที่กองเพลิงกลางค่ายทหาร " มีร่ากล่าวกับทุกคน 
 
 
 
 ภายหลังจากที่สิ้นสุดการนับผลคะแนน ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนล้างเนื้อล้างตัว เต็นท์ที่ใช้สำหรับการพักผ่อนหลับนอนถูกแยกชายและหญิงออกจากกัน
 
 " เฮ้อออ... เหนื่อยชะมัด " เคนเนทบ่นๆ 
 
 " หมดแรงแล้วล่ะ... " อลันเองก็ดูอ่อนเพลีย
 
 " ให้คริสตัลไปพักกับลาพิส จะไม่เป็นไรเหรอ ยัยนั่นอะ... " 
 
 " เคนเนท... " อลันสะกิดเคนเนท 
 
 " อ้าว.. โทษทีลืมไป " 
 
 บรู๊ค เด็กหนุ่มท่าทางเจี๋ยมเจี้ยม เป็นผู้ติดตามของลาพิส ตอนนี้มาพักอยู่กับพวกอลัน และดูท่าทางซึมๆ 
 
 " สวัสดีครับ นายชื่อ บรู๊ค ใช่ไหม ผมชื่อว่า อลัน นะ " อลันกล่าวทักทาย " ฉันชื่อ เคนเนท " เคนเนทเอ่ยทัก
 
 " สะ.. สวัสดีครับ ผมชื่อว่า บรู๊ค " บรู๊คตอบกลับ 
 
 " เป็นไงมาไงถึงได้มาตามยัยลาพิสได้ " เคนเนทโพล่งขึ้นมา 
 
 " เคนเนท! " อลันพูดดุ
 
 
 
 " ไม่เป็นไรหรอกครับ คือว่า.. 
 
 ครอบครัวผมเคยดูแลเป็นข้ารับใช้ให้กับตระกูลเรนนาร์ด ( Rennard ) ตระกูลเรนนาร์ดเป็นตระกูลขุนนางเก่าแก่ ครอบครัวผมคอยรับใช้มาหลายชั่วอายุแล้วครับ " บรู๊คเล่า
 
 " นายเลยต้องมาตามยัยลาพิสต้อยๆอะนะ " เคนเนทพูดโพล่ง
 
  "ไม่ใช่ๆแบบนั้นหรอกครับ ผมอาสามาเอง 
 
 เมื่อสามปีก่อนคุณหนูลาพิสเคยสอบตกการคัดเลือก ในปีนั้นมีแค่ทีมที่มาจากชนเผ่าควาคู เพียงแค่หกคนเท่านั้นที่สอบผ่าน
 
 หลังจากนั้นคุณหนูลาพิส เลยหมดความมั่นใจและกลัวการสอบขึ้นมา ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของคุณหนูที่จะสอบได้ หากว่าคุณหนูสอบไม่ผ่าน ตระกูลเรนนาร์ดจะไม่มีอำนาจทางการเมืองจากทางสมาคมของผู้ควบคุมครับ ผมเลยขออาสามาช่วยให้คุณหนูสอบผ่านครับ " บรู๊คเล่าให้ทั้งสองคนฟัง ท่ามกลางความงงงวยของทั้งคู่ที่ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการบ้านการเมืองนักหรอก
 
 
 
 ตอนนั้นเอง " แก๊งๆๆๆ แก๊งๆๆๆ " เสียงของทหารนายหนึ่ง เคาะเรียกทุกๆคนให้มาร่วมทานอาหารมื้อค่ำ 
 
 " หู้ววว.... เนื้ออออ " เคนเนทดีใจหน้าระรื่น
 
 " เคนเนท ชอบกินเนื้อจริงๆเลย "
 
 " ผมก็ชอบนะ บ้านผมล่าสัตว์กันเป็นประจำ " บรู๊คเอ่ย ครอบครัวของเขาเป็นนักล่าสัตว์ บรู๊คจึงมีฝีมือการยิงธนูและวางกับดักได้อย่างยอดเยี่ยม แผนการที่เขาสร้างขึ้นร่วมกับทีม จึงลุล่วงไปได้ด้วยดีทีเดียว 
 
 " จริงหรอ เอาไว้เราไปล่าสัตว์ด้วยกันมั่งไหม " อลัน พูดชวน " ไปสิครับ " บรู๊คยิ้มตอบ
 
 ทุกคนต่างสนุกสนามเมื่อได้พักผ่อนหย่อนใจ ร่วมทานอาหารค่ำไปด้วยกันรอบๆกองเพลิง พร้อมกับเพลงที่เหล่าทหารต่างร้องเล่นบรรเลง เพลิดเพลินไปกับความสุขเล็กๆในค่ายแห่งนี้ มิตรภาพใหม่ก็ได้ก่อกำเนิดขึ้นในค่ำคืนนี้อีกครั้ง 
 
 
 
 ทว่า...
 
 มีร่า ยังคงยืนมองจ้องไปในความมืดมิดนอกค่ายทหาร ไกลออกไปในราตรีอันเงียบสงัด 
 
 ณ จุดเฝ้าเวรยามของทหารนอกค่าย
 
 " แกว๊ก... " 
 
 อีกาตัวหนึ่งบินมาเกาะที่ไหล่ของนายทหาร ในจุดเฝ้าระวังภัยใกล้กับชายแดน
 
 ทหารนายนั้น หน้าขาวโพลนซีดเผือดแววตาเบิกโพลง นั่งนิ่งเงียบราวกับซากศพ โลหิตไหลซึมออกจากใต้คางของเขา 
 
 ขณะนั้นเองดวงตาของอีกา ก็ดูเปลี่ยนไปราวกับดวงตาของมนุษย์อย่างน่าประหลาด
 
 " เห้ย... เห้ย... ข้าบอกเจ้าแล้ว ว่าเข้าไปไม่ถึงค่ายหรอก โยชิคาซึ (yoshikazu) " อีกาตัวนั้นพูดภาษามนุษย์ออกมาด้วยเสียงแหบแห้งกระด้างปาก 
 
 " อา... อยู่ตรงนี้ข้าก็มองเห็นได้น่า " เขาตอบ
 
 " ขืนเข้าไปใกล้กว่านี้อีกนิด นางได้เห็นเจ้าแน่ " 
 
 " สิ่งที่นางเห็นคงเป็นใบหน้าทหาร ของแม่ทัพผู้เป็นที่รักของนางไง ฮี่ๆ... " เขาขำอย่างน่าสะอิดสะเอียนในลำคอ " มีร่า... มีร่า ข้าชอบใบหน้าของเจ้าซะจริง "
 
 " ข้าให้เจ้ามาดูเจ้าเด็กนั่น เห็นแล้วรึยัง " อีกาพูด 
 
 " ข้าเห็นแล้ว ก็แค่เด็กธรรมดา ไม่เห็นจะมีพลังอะไร " 
 
 " ไหงเป็นงั้นวะ ข้อมูลที่ได้มาผิดหรือไง " 
 
 " จะไปรู้หรือ... แต่ข้ามองไม่ผิดแน่ " 
 
 " เห็นว่าปีนี้มีเด็กชนเผ่าควาคูเข้าสอบด้วยนี่ " 
 
 " เออ... ก็มีอยู่คนนึง "
 
 
 
 " อย่างน้อยก็มีข่าวไปรายงานละวะ ข้าไปก่อนล่ะ รีบๆถอยได้แล้ว ก่อนที่นางจะมาเจอพวกเรา " อีกาพูดจบก็พลันบินจากไปในความมืดอันยะเยือกของราตรี
 
 " มีร่า... ฮี่ๆๆ ข้าต้องเอาใบหน้าของเจ้ามาเป็นคอลเลคชั่นของข้าให้ได้ ฮี่ๆๆ... " ทหารนายนั้นค่อยๆลอกเอาผิวหนังใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยเลือดออก และเคลื่อนย้ายร่างถอยหลังออกไป เหลือไว้เพียงใบหน้าโชกเลือด เร้นกายหายเข้าสู่เงามืดของสนธยา 
 
 ยามเมื่อแสงจันทร์สาดส่องลงมา เบื้องหลังคือของร่างอันไร้วิญญาณของทหารสองนาย เสียชีวิตนอนจมกองเลือด น่าเวทนาระคนสยดสยองร่างกายนั้นเปลือยเปล่า และใบหน้าที่คว่ำลงบนพื้น เหล่านักล่ายามค่ำคืนเข้ามาสิงสู่บนยอดไม้เพื่อรอเวลาอาหารของมัน 
 
 นักฆ่าจากดาคาห์รี ลอบเข้ามายังชายแดนเพื่อข้อมูลบางอย่าง ผู้ล่ากลุ่มใหม่เข้าสู่กระดานแล้ว
 
 
 จบตอน.