เป็นพนักงานทำความสะอาดคอนโดอยู่ดีๆ ก็กลายมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กซะอย่างนั้น เด็กธรรมดาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ทายาทมาเฟียไม่ใช่เหรอ! แล้วทำไม่พ่อถึงดุแบบนี้!
        ชาย-ชาย,รัก,ตลก,ไทย,ผู้ใหญ่,ดราม่า,เลี้ยงเด็ก,เด็กน้อย,18+,คอมเมดี้,สู้ชีวิต,มาเฟีย,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี,  นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
        
        
      
          นั่งรวมสติอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นไปโทรตามช่างตามที่เจ้าของห้องสั่ง ไม่นานช่างประจำคอนโดก็เข้ามา ต้นคูนที่เก็บอุปกรณ์ต่างๆ เรียบร้อยแล้วไม่มีอะไรทำเพิ่มเติม จึงเข้าไปเป็นลูกมือช่างจนงานเสร็จ 
 "ขอบคุณนะครับ" ร่างสูงผมสีเข้มกล่าวขอบคุณช่างที่กำลังออกไป ก่อนปิดประตูลง เมื่อหันหลังจะเดินไปห้องรับแขกกลับเห็นอคินในชุดคลุมตัวใหม่ยืนมองอยู่ จึงอุทานออกมาด้วยความตกใจ
 
 "โอ๊ย แม่งเอ๊ย!" มายืนเงียบๆ ทำไมไม่มีอะไรเหรอวะ! ท่อนหลังต้นคูนงับปากทันจึงไม่ได้พูดออกไป 
 
 "มี..มีอะไรรึเปล่าครับ" ต้นคูนถามขึ้นทำลายความเงียบ
 
 "..."
 
 "..." เพราะไม่มีใครพูดจึงกลายเป็นความเงียบที่รู้สึกเย็นเยียบกว่าเดิม
 
 "เอ่อ...ให้ผมทำความสะอาดห้องนั้น...ด้วยไหมครับ" ต้นคูนทำใจเย็นถามอีกครั้ง ถึงอย่างไรก็ไม่อยากมายืนจ้องตากันอยู่แบบนี้ ห้องที่ว่าก็คือห้องที่อคินใช้ทำศึกสามด้านเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนนั่นเอง
 
 "เอาสิ" เสียงทุ้มใหญ่ตอบกลับ ขยับตัวเดินเข้าห้องที่ว่า
 
 ต้นคูนยิ้มกริ่ม อย่างน้อยอคินก็ไม่ได้ปล่อยให้เขาพูดคนเดียวจนเป็นบ้า ร่างสูงเพรียวมีมัดกล้ามพอเหมาะเดินไปหยิบอุปกรณ์ที่เพิ่งเก็บไปอีกครั้งก่อนจะตามเข้าห้องไป
 
 ทว่าก็ต้องหยุดตัวเองไว้ที่ประตูเพราะรู้สึกถึงบรรยากาศอันตรายแปลกๆ
 
 ไอ้ห้องนี่...มันถูกใช้งานแบบนั้นใช่มั้ยนะ? ถ้าเราเข้าไป เอ่อ...ไม่หรอก มาทำงานไง ก็แค่ทำความสะอาด
 
 ไล่ความคิดไร้สาระออกจากหัวได้ต้นคูนจึงเริ่มเข้าไปทำความสะอาด อย่างที่ชายหนุ่มคิดภาพของเตียงราวกับผ่านศึกหนักระดับสงครามโลก เละเทะและมีกลิ่นที่เขาทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นคละคลุ้งไปทั่ว
 
 ต้นคูนเริ่มจากเก็บซากถุงยางลงถัง และพลิกผ้าปูออกหวังเก็บไปซัก ทว่ามีเสียงหนึ่งขัดขึ้น
 
 "ไม่ต้อง ฉันจะทิ้งเลย" เป็นอคินที่ออกมาจากห้องแต่งตัวในชุดลำลองผ้ายืดสเวตสีเทาเข้ม
 
 "งั้นเอาไว้ไหนดีครับ" ต้นคูนถาม
 
 "เอาไว้ตรงนั้นแหละ จะเอาออกมาทำไม เดี๋ยวมีพนักงานเข้ามาเก็บไปเอง" อคินชักสีหน้าพูดราวกับรำคาญ ก่อนจะรับโทรศัพท์สายหนึ่งที่โทรเข้ามา
 
 ผีเข้าผีออกหรือไง เมื่อกี้ยังวางท่าทำเป็นอ่อย
 
 ลับหลังอคินที่เดินไประเบียงนอกห้อง ต้นคูนก็แสร้งทำสีหน้าล้อเลียน ขยับปากขมุบขมิบพูดตามอคินเมื่อกี้ด้วยความหมั่นไส้
 
 "แล้วทำไมมึงไม่ไปลากกลับมา! เลี้ยงเสียข้าวสุก!"
 
 เสียงตวาดทะลุระเบียงเข้ามาจนต้นคูนต้องหันไปมอง อคินมีสีหน้าโมโหพร้อมตะโกนว่าคนปลายสายไปด้วย จับใจความได้บ้างว่ามีพี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่งหนีออกไประหว่างทำงาน ต้นคูนได้แต่ยืนขนลุกทำเป็นไม่ใส่ใจ ดีที่ตนทำงานนี้แค่ 7 วัน หากอยู่ไปนานๆ ก็คงหนีเช่นกัน
 
 หลังนำผ้าปูออกไปวางด้านนอกต้นคูนก็เดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้งเพื่อนเก็บกวาดพื้นต่อ เป็นจังหวะเดียวกับที่อคินเดินเข้ามาพอดี บรรยากาศรอบข้างดูขมุกขมัว ไม่น่าเข้าใกล้ ต้นคูนจึงทำตัวเงียบเดินย่องเบาแสร้งให้ตัวเองเหมือนไรฝุ่นมากที่สุด ไม่ให้เสียงไปกระทบคนกำลังหงุดหงิดเพราะกลัวจะโดนลูกหลง
 
 "รีบหาคนใหม่สิวะ คิดเองไม่เป็นรึไง! หรือจะให้กูไปหาให้?" อคินสบถออกมาด้วยอารมณ์โมโหก่อนจะว่างสาย ก่อนจะเดินไปหยิบพอตไฟฟ้าที่โต๊ะข้างเตียงขึ้นมาสูบ สายตาคมปลาบเหลือบไปเห็นเตียงที่ว่างไร้ผ้าปูจึงตวัดไปมองต้นคูนที่ก้มตัวต่ำหมอบกับพื้นอีกฝั่งข้างเตียงโก่งก้นขึ้นสูงราวกับหาอะไรบางอย่าง
 
 "ทำอะไร" อคินถามขึ้นขมวดคิ้วมองก้นพนักงานทำความสะอาดคนใหม่ เขาไม่ได้ตั้งใจจะมองแค่มันเด่นเพราะอีกฝ่ายก้มจนหัวหายไปกับข้างเตียงเท่านั้น
 
 ต้นคูนที่กำลังเก็บเศษถุงยางที่อยู่ข้างซอกระหว่างโต๊ะโคมไฟกับเตียงอยู่ เมื่อได้ยินคำถามจึงนิ่งคิดไปพักใหญ่ว่าอีกฝ่ายพูดกับตนไหม แต่ดูเหมือนอคินจะไม่รอให้เขาคิดเสร็จ
 
 "ฉันถามว่าทำอะไร!"
 
 "ครับ! เอ่อ ผมกำลังเก็บอันนี้..." ได้ยินเสียงตวาดจึงรีบผุดขึ้นนั่งพร้อมโชว์ซากถุงยางใช้แล้วขึ้นชูเป็นหลักฐานทันที
 
 อคินสำลักควันเล็กน้อยเมื่อเห็นสิ่งที่ต้นคูนหยิบขึ้นมา ก่อนจะทำเปลี่ยนไปเรื่องอื่น
 
 "แล้วผ้าปูไปไหน"
 
 "ผมพับใส่ตะกร้าแล้วเอาไปไว้แถวทางเข้าครับ พนักงานจะได้มาเก็บง่ายๆ"
 
 "ฉันบอกให้นายทำรึไง " อคินสูบพอต
 
 "ปะ เปล่าครับ..." ต้นคูนก้มหน้างุด เขาก็แค่หวังดีกับพนักงานเท่านั้นเอง 
 
 "ฉันสั่งอะไรนายก็ต้องทำแบบนั้น อย่ามาคิดเองหวังดีอะไรพรรค์นั้น เข้าใจไหม" อคินที่อยู่อีกฝั่งเตียงมองกดต่ำไปที่ต้นคูนซึ่งนั่งอยู่บนพื้นอีกด้าน
 
 "ครับ.." ร่างเล็กกว่าได้แต่ก้มหน้าทำท่าทางสงสารจึงไม่ทันเห็นสายตาพิจารณาบางอย่างของร่างสูง ความเงียบเข้าปกคลุม ต้นคูนที่รู้สึกถึงสายตาของอีกฝ่ายจึงไม่กล้าลุกขึ้นหรือขยับตัว จนกระทั่งอคินพูดเสียงเรียบขึ้นมา
 
 "นายเคยเลี้ยงเด็กไหม"
 
 "ครับ? เอ่อ ผมลูกคนเดียว โสดมา 23 ปีแล้ว ยังไม่ได้แต่งงานครับ" เขาเลือกจะโกหกออกไปเพราะรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่าง
 
 "แต่ฉันรู้มาว่านายมีน้องสองคน หึ ใจกล้าจริงๆ" อคินหัวเราะสั้นๆ พลางยิ้มเยาะ ต้นคูนหน้าซีดรีบเงยมองอีกฝ่าย ไม่ทันได้ถามอะไรอคินก็แทรกขึ้นมาก่อน "ถ้าตามฉันมาเงียบๆ จะไม่มีใครเป็นอะไรหรอก"
 
 หมายถึงยังไง แล้วถ้าไม่ตามไปจะมีใครเป็นอะไรเหรอ?!
 
 "จะ จะให้ผมไปไหนครับ" ต้นคูนถามเสียงสั่น
 
 "อย่าถามให้มาก" อคินพูดเสียงต่ำ มองต้นคูนด้วยสายตาเย็นชา
 
 แม่งเอ๊ย จะพาไปขายไหมเนี่ย คิดแล้วเชียวว่างานทำความสะอาดที่ไหนมันจะเงินดีแบบนี้!
 
 "ไม่คือ ผมไม่เข้าใจครับ คุณจะให้ผมไปไหน ผมอยากทำงานนี้จริงๆ นะ" ต้นคูนร้อนรนคลานขึ้นเตียงอยู่ตรงหน้าอคิน สายตาสับสนระคนหวาดกลัว
 
 "นายไม่ได้ชอบทำความสะอาด นายชอบเงินไม่ใช่เหรอ" ร่างเล็กสะอึก ก็ใช่อยู่ที่เขาชอบเงินแต่ เงินที่ว่าก็ต้องมาจากงานที่เขาเต็มใจจะทำ
 
 อคินมองต้นคูนที่นิ่งไป ท่าทางดูอดกลั้นเพราะเขาพูดแทงใจดำ มือหนาเชยคางต้นคูนขึ้นให้สบตากับตน ทว่าอีกฝ่ายกลับหลบเลี่ยงมองไปทางอื่น ริมฝีปากบางขยับพูดอีกครั้ง
 
 "ฉันแค่จะหางานใหม่ให้นาย ในเมื่อนายมีน้อง คงเคยเลี้ยงเด็กมาบ้าง" ไม่พูดเปล่าอคินจับใบหน้าเรียวของต้นคูนพลิกไปมาเพื่อสำรวจ ก่อนจะพึมพำ "อืม...นายเป็นแบบที่เด็กนั่นถูกใจเลยนะ"
 
 "ครับ?" ต้นคูนที่ได้ยินแว่วๆ จึงเอียงคอตอบรับงงๆ อคินปล่อยมือจากใบหน้าอีกฝ่าย
 
 เมื่อเป็นอิสระต้นคูนจึงถามกลับ
 
 "คุณไม่ได้จะบังคับผมใช่ไหมครับ" ทำน้ำเสียงออดอ้อนเพิ่มความเห็นใจพร้อมเงยหน้าส่งสายตาเป็นประกาย คิดว่าอย่างน้อยตนควรลองเชิงดูก่อนเผื่อใช้ได้ผล คราวหน้าจะได้ทำอีก ทว่าสิ่งที่ได้คือชายตรงหน้าขมวดคิ้วมุ่นราวกับหงุดหงิดรำคาญ
 
 "เห็นฉันเป็นพวกชอบบังคับรึไง" 
 
 โอโห พี่จะเอาความจริงหรือจิ๊จ๊ะครับ? แน่นอนว่าต้นคูนไม่ได้พูดออกไปให้เรื่องเข้าตัว
 
 "เปล่าครับๆ ผมแค่ถามเฉยๆ" ทำได้เพียงส่ายหน้ารัวๆ เท่านั้น
 
 "ออกไปรอข้างนอก ฉันจะพานายไปดูเด็กที่ต้องเลี้ยง"
 
 "ครับ? คือผมยังทำความสะ..." ต้นคูนยังสับสนที่โดนสั่งกะทันหัน
 
 "หรือนายจะช่วยฉันเอาออก" อคินกล่าวพร้อมกับเหลือบมองเบื้องล่างของตนเอง ต้นคูนมองตามสายตาไปก็พบเข้ากับอวัยวะปริศนาตรงหว่างขาแกร่งตั้งตระหง่านแทบจะทะลุเนื้อผ้าอยู่ในระดับสายตาของตนเอง ชายหนุ่มตาโตผงะไปเล็กน้อยก่อนจะพูดตะกุกตะกัก
 
 "อ่า เอ่อ ผมทำให้แล้ว...พี่จะเหี่ยวเปล่าๆ ...เชิญเลยครับเชิญเลย" ว่าพลางค่อยๆ ขยับถอยหลังลงเตียงไปจนถึงหน้าประตู พาตัวเองออกจากห้องพร้อมปิดประตูให้เสร็จเรียบร้อย
 
 ประตูห้องปิดลงต้นคูนยืนพิงกำแพงปาดเหงื่อทิพย์ ขยับคอเสื้อแก้ร้อยนจากความรู้สึกวูบวาบในร่างกาย พลางขมวดคิ้วมุ่นหันไปมองที่ประตู พูดเสียงแผ่ว
 
 "เพิ่งทำไปไม่ใช่เรอะ มาตั้งชี้หน้าอีกได้ไงวะ แบบนี้เรียกป่วยแล้วป๊ะ ประหลาด โรคจิต แจ้งทำตรวจ...ไม่ ไม่ได้ น่ากลัวฉิบหาย แค่ 7 วันเอง ทนๆ เอาแล้วกันไอ้คูน" แม้จะบ่นแต่ต้นคูนก็พูดเบาๆ เพราะกลัวคนในห้องจะได้ยิน พลางเดินห่างจากประตูออกมาเรื่อยๆ ในเมื่อไม่มีอะไรให้ทำแล้วเลยไปนั่งรอที่โซฟาแทน ทว่าด้วยความเหนื่อยล้าจึงเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น
 
 
 
 อคินที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่สวมเสื้อเชิ้ตสีเข้มกับกางเกงแสล็กสีขาวขับให้ผิวดูสว่างยิ่งขึ้น สองขายาวเดินมาหยุดที่หน้าห้อง มองหาชายพนักงานทำความสะอาดทว่ากลับไม่พบ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันก่อนจะได้ยินเสียงบางอย่าง
 
 "ขอโทษ...งืม...พี่ไม่ได้จะ...หมูเธอ.." เสียงเบาบางฟังไม่ได้ศัพท์มาจากโซฟาตัวยาว ชายหนุ่มเดินเข้าไปชะโงกดูก็พบต้นคูนนอนแผ่เกาพุง ขาตกจากโซฟาไปข้างหนึ่งดูหลับสบาย
 
 "นี่" อคินเรียก แต่ไม่ได้รับการตอบกลับจากคนที่นอนอยู่เลย ร่างสูงจิ๊ปาก เดินไปอีกฝั่งโน้มตัวจะไปดึงแขนให้ตื่น ทว่าเมื่อจับไปที่แขนเรียวเขาก็นิ่งไปเล็กน้อย ผอมเกินไป  ได้แต่คิดก่อนจะเปลี่ยนไปดึงต้นคูนขึ้นนั่งแทน ทว่าชายตรงหน้าก็ไม่มีทีท่าจะตื่น
 
 อคินเริ่มปวดหัวเล็กน้อย ถอนหายใจเฮือกหนึ่งแววตาปรากฏความเบื่อหน่ายและหงุดหงิด ก่อนจะตัดสินใจอุ้มต้นคูนขึ้นมาแบกพาดบ่าและพาออกจากห้องเดินไปยังลิฟต์ลงไปชั้นจอดรถใต้ดินที่ตนเองซื้อไว้ทั้งชั้น เหล่าลูกน้องที่รออยู่หน้าลิฟต์แสดงอาการตกใจที่เจ้านายของตนแบกคนพาดบ่ามา เกรงว่าอาจจะเป็นศพ แต่ก็น่าแปลกที่ไม่เรียกพวกตนขึ้นไปจัดการให้
 
 อคินที่เห็นลูกน้องยืนรอเป็นโขยงก็เรียกใครสักคนมารับตัวต้นคูนไป มีชายคนหนึ่งที่ยืนใกล้ที่สุดเดินเข้ามารับไปแบกแทน
 
 "เอ่อ ให้จัดการยังไงดีครับ" ชายตัวใหญ่ถามอย่างแข็งขัน เดาว่าคนคนนี้อาจจะเป็นคู่อริที่ลักลอบเข้ามาทำร้ายเจ้านาย ตอนแรกนึกว่าตายไปแล้วแต่พอได้จับตัวจึงรู้ว่ายังหายใจ เลยคิดว่าเจ้านายจะให้จัดการปิดงาน
 
 "พาไปบ้านใหญ่" อคินตอบ สองขายาวไม่หยุดก้าวไปยังรถสปอร์ตคันขาวของตนเอง
 
 "ครับ? ปกติไม่..." ลูกน้องที่แบกต้นคูนพาดบ่าเดินตามถามด้วยความสงสัย เพราะปกติไม่เคยมีการจัดการศพศัตรูที่นั่นเลยเนื่องจากเป็นสถานที่ลับ
 
 "ต้องพาพี่เลี้ยงคนใหม่ไปทดลองงานสิ"
 
 อคินที่ขึ้นรถเรียบร้อยเปิดกระจกตอบลูกน้องก่อนจะขับออกไป เหล่าบรรดาคนใต้อาณัติที่ได้ยินต่างตกใจส่งเสียงฮือฮากลายเป็นข่าวลือว่า เจ้านายตนทุ่มเทแรงกายวางยาลักพาตัวพี่เลี้ยงคนใหม่กลับไปเป็นของขวัญให้นายน้อยที่บ้าน