อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น,พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Lost Wing สายเลือดต้องห้ามอดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน
ในอีกวัน ณ ซัสทรารัส คาบเรียนโฮมรูมผ่านไปอย่างรวดเร็วเช่นเคย มีการติเตียนเป็นนัยจาก อัลเบอร์ทริกเล็กน้อยเรื่องการต่อยตีในสถานศึกษา ซึ่งทุกคนก็ต่างรู้กันดีว่าใคร แต่ผลตอบรับจากเรื่องที่เกิดดีเกินคาดเพราะเพื่อนร่วมชั้นส่วนใหญ่ กลับมองแล้วยิ้มให้ บางคนถึงขั้นยกนิ้วโป้งให้กับพวกเขา
และการทำความรู้จักกับศาสตราจารย์ผู้รับผิดชอบในการสอนอีกคนก็เริ่มต้นขึ้น
ศาสตราจารย์อลิเซีย โรมมิอุส ก้าวเดินกึ่งลอย เข้ามาพร้อมปีกใสประกระกายชมพูปนม่วงปนทอง ราวกับแก้วสะท้อนแสง เรือนผมสีม่วงประกายฟ้าแผ่สยายลองหิมะเล็กๆที่ส่งกลิ่นหอมตลกอบอวลที่ทำให้นักเรียนในห้องเคลิบเคลิ้มราวกับตกอยู่ในภวังค์
เมื่อยืนประจำตำแหน่งด้านหน้าชั้นเรียนแล้วเธอจึงค่อยๆ เก็บปีก 2 คู่นั้นเก็บ ซึ่งมันก็ถูกเก็บซ่อนเข้าสู่แผ่นหลังเล็กบอบบางของเธอ พร้อมกับกลิ่นหอมหวานน่าหลงใหลที่ค่อยๆบางเบาลง
"แฟรี่ เป็นหนึ่งในภูตที่มีหลากหลายสายพันธุ์มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง แต่ก็คิดอ่านซับซ้อนมิต่างจากมนุษย์ เช่นเดียวกันกับสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่นบนโลกนี้ วิชาเรียนของครูจะสอนให้ทุกคนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตทุกสายพันธุ์ เรียนรู้เกี่ยวกับจุดอ่อน จุดแข็ง ความสามารถ เพราะหากลงสนามรบจะนำชัยมาให้โดยง่ายหากเรารู้เกี่ยวกับคู่ต่อสู้"
วิชาเรียน 3 ชั่วโมงอันน่าประทับของอลิเชีย โรมมิอุสก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว คาบเรียนนี้เป็นคาบเรียนที่ราฟาเอลโร่สาบานเลยว่าเขาชอบที่สุด ด้วยสิ่งแปลกใหม่ผสมผสานไปกับการสอนอย่างมีชั้นเชิง ทำให้การเรียนกับศาสตราจารย์อลิเซียเป็นเรื่องที่สนุกและน่าทึ่งมาก จนแทบไม่อยากให้จบลง
เช่นเดียวกันกับพักเที่ยงที่แสนสั้น ก่อนที่จะเผชิญกับสิ่งที่ไม่อยากให้มาเยือน นั่นคือคาบเรียนของศาสตราจารย์ย์อิลิค ธีโอ ด้วยโทนเสียงราบเรียบเป็นเส้นตรงดุจดังเสียงบังคับให้ต่อสู่กับการเข้าสู่นิทรา ทำให้คาบเรียนนี้ยิ่งลำบากมากยิ่งขึ้น
แต่ในวันนี้แทนที่จะเป็นการขานชื่อย์อิลิค ธีโอกลับให้นักเรียนนับตัวเลข ซึ่งเริ่มจาก 1 ที่กาเดียร์ ทราเดียน 2 ที่เกรโดลาส ไล่เรียงไปอย่างรวดเร็วจบครบ 15 คนหลังจากนั้นจะสั่งให้ทุกคนลุกจากที่ จัดแถวหน้ากระดาษเรียงสาม ขณะเดินห้ามแตกแถว และตามเขามา
การเดินของอิลิค ธีโอนั้นช่างต่างกับน้ำเสียงอันดับเรียบของเขายิ่งนัก เพราะเป็นก้าวที่หนักแน่นกระฉับกระเฉงและรวดเร็วในคราวเดียวกัน อิลิค ธีโอพานักเรียนทุกคนในชั้น มายังลานสนามฝึกที่อยู่ไม่ไกล ที่ตั้งของสนามฝึกคืพื้นที่ปิดขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางที่โอบล้อมไปด้วยอาคารเรียน
เมื่อเข้ามาด้านในพวกก็พบเข้ากับต้นเสาร์ขนาดใหญ่สีขาวที่เรียงตัวอัดแน่นเต็มไปหมด จนนึกไม่ออกว่านี่คือสนามฝึกหรืออาคารที่ทำไวเก็บต้นเสาร์พวกนี้กันแน่ แต่อิลิค ธีโอกับเดินเข้าหาต้นเบื้องหน้ายังไม่ลังเล ก่อนที่มันจะหดตัวลงสู่พื้นขึ้นอีกทางให้พวกเขาเข้าไปด้านใน
"ตราบใดที่พวกเจ้ามีตราประจำของโรงเรียนก็จะสามารถเดินเข้าออกโรงฝึกนี้ได้โดยมิมีปัญหาใด มันเป็นเหมือนใบอนุญาตของหลายๆพื้นที่ในซัสทรารัส"
นักเรียนหลายคนก้มมองดูตราประจำโรงเรียนที่ติดอยู่บนอกเสื้อของตน ที่บัดนี้เรืองแสงสีขาวละมุนออกมา
เมื่อเดินเข้าสู่ป่าต้นเสาร์สู้เสียบหลังคาโรงฝึกไม่นานนักพวกเขาก็พบเข้ากับพื้นที่โล่งของสนามที่กำลังถูกใช้งานอยู่ ซึ่งแลดูคล้ายกับคาบเรียบศิลปะการร่ายรำ ซึ่งนักเรียนหญิงทุกคนในคาบเรียนนั้นต่างสวมใส่อาภรณ์ชิ้นเดียวเป็นเกาะอกขายาวแนบเนื้อคลุมทับด้วยด้วนผ้าพริ้วโปร่งใส เพื่อที่ศาสตราจารย์ผู้สอนจะได้มองเห็นความถูกต้องของการจัดวางสรีระ เมื่อร่ายรำ
แต่สิ่งที่น่าแปลกคือ บรรดาเพื่อนร่วมชั้นทุกคนต่างตีวงครึ่งวงกลมรายรอบ เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งที่กำลังร่ายรำอยู่แม้กระทั่งศาสตราจารย์ผู้สอนที่มือสองข้างถูกกุมไว้ที่อกจ้องมองลูกศิษย์อยากปราบปลื้ม
เธอร่ายรำอยู่ใจกลางของกระถางพลังธาตุทั้ง 6 ที่มีพลังพวยพุ่งพริ้วไหวหยอกล้อกับเสียงดนตรีในกระถางเตี้ยๆ ที่วางสลับกันเป็นวงกลม
ศาสตราจารย์อิลิค ธีโอหยุดเดินทันทีที่เห็นการร่ายรำนั้น
ช่างเป็นการร่ายรำที่อ่อนช้อยพริ้วไหว แม้จะมองเห็นเพียงแค่แผ่นหลัง ยิ่งเมื่อแส้ยาวในมือต้องกลับเร็วพลังธาตุสีของแส้จะเปลี่ยนไปตามสีของธาตุนั้นๆ
แต่แล้วใบหน้าของหญิงก็ปรากฎเมื่อเธอหมุนตัวมาทางพวกเขาแม้จะเป็นเพียงชั่วครู่ แขนที่ปัดลงทำให้ผ้าคลุมใสหลุดลงจากบ่าขาวผุดผ่องที่มีเลือดฝาดทำให้กลายเป็นสีชมพู เรือนผมยาวบิวสะบัดไปด้านหลัง ใบหน้างดงามที่เงยขึ้นมองตรงมายังพวกเขายังคงมียิ้มแห่งความสุขประดับอยู่
#โอเรียอน่า# เสียงในสมองของราฟาเอลโร่ดังขึ้น แต่พอเขารู้ตัวอีกทีจากเสียงพูดของอลูคาร์ ภาพรอบตัวของเขาก็พล่าเรือน มีเพียงภาพของโอเรียอน่าที่กำลังร่ายรำเพียงอย่างเดียวที่เเจ่มชัด
"ใครจะไปนึก ว่าโอเรียอน่าผู้แสนร้ายกาจ จะร่ายรำได้ราวกับธารน้ำไหลที่เปร่งประกายเมื่อยามต้องแสง จนได้รับการขนานนามว่า บุปผาสีรุ่งแห่งอคาด้า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ ที่จะขยับร่างกายให้พริ้วไหวเช่นนั้นไปพร้อมกับใช้พลังเวทที่ต้องควบคุมแส้แปลธาตุ งดงามมากเลยใช่ไหมละ"
หากแต่ไร้ซึ่งเสียงใดตอบกลับมาจนอลูคาร์ต้องหันไปมองหน้าราฟาเอลโร่ แต่เมื่อเห็นสีหน้านั้นที่จ้องมองไปข้างหน้าจนอลูคาร์ต้องมองตามสายตาของราฟาเอลโร่เพื่อให้แน่ใจว่าเขากำลังจ้องมองสิ่งใดอยู่กันแน่ เมื่อละสายตากลับมาอลูคาร์ก็ถึงกับทำกับทำสีหน้าครุ่นคิดอย่างเก็บไว้ไม่อยู่
เมื่อถึงพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ซึ่งเช่นเคยรายล้อมไปด้วยต้นเสาร์สีขาว อิลิค ธีโอ ก็ให้ลูกศิษย์ทุกคนใช้พลังธาตุของตน อลูคาร์และราฟาเอลโร่ได้ใช้พลังธาตุหลักให้อิลิค ธีโอดูเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งแน่นอนแม้จะเป็นเพียงพลังธาตุหลักพื้นฐานแต่ทั้งสองก็ดึงออกไม่ได้อย่างชำนาญและรุนแรง
ทั้งมายืนมองคนอื่นๆอยู่ใกล้ในขณะที่อลูคาร์สังเกตุเห็นดวงตาเหม่อลอยแปลกๆ ของเพื่อนจนอดเอ่นถามไม่ได้
"เอล ตั้งแต่เมื่อใดกัน"
"ตั้งแต่เมื่อใด อะไร"
ราฟาเองโร่ที่หันมาถามกลับกับคำถามไร้ที่มาที่ไป จนทำให้อลูคาร์อดหัวเราะไม่ได้
"เมื่อครู่ที่เจ้าได้ยลการร่ายรำของโอเรียอน่าคงใจเต้นแรงใช่หรือไม่"
ราฟาเอลโร่นิ่งนึกชั่วครู่ก่อนจะตอบออกมาตามสัตย์จริง แบบซื่อๆ
"ก็งดงามขนาดนั้น งามจนข้าแทบหยุดหายใจ"
เป็นคำตอบที่อลูคาร์์ต้องหันกลับมายิ้มกับตนเอง ใจเผลอนึกถึงบ้างเรื่องขึ้นมา ก่อนจะตอบกลับออกไปว่า
"ใช่ ก็คงไม่แปลกที่เมื่อได้ยลครั้งแรกจะใจเต้นแรง"
หลังจากจบคาบเรียนกับศาสตราจารย์ย์อิลิค ธีโอ ราฟาเอลโร่กลับแปลกใจที่พบว่าคาบเรียนที่ผ่านไปกลับไม่ได้แย่อย่างที่เค้าคิดเอาไว้ อละกลับมาบ้างอย่างที่เขาสลัดไม่ออกจากหัวเสียที
แต่เข้าเองก็นับว่าการเรียนเป็นสิ่งที่เพลิดเพลินพอสมควร ชั้นเรียนปรุงยาของศาสตราจารย์แม็กนัส ลูมินัสที่เขาไม่ค่อยจะถนัดแต่ก็แปลกใหม่ เขาชอบการเรียนรู้เรื่องพืชวิเศษหายาก พืชมีพิษ และอวัยวะของสัตว์วิเศษที่เปฺ็นส่วนประกอบของการปรุงยา หรือกระทั่งการเล่นแร่แปรธาตุในชั้นเรียนของศาสตราจารย์โทลคีน อิลูทาร์ที่ราฟาเอลโร่ค้นพบว่าตนเองถนัดและชอบการเล่นแร่แปลอย่างไม่น่าเชื่อ
คืนวันเองก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วเช่นกันไม่นานนักการทดสอบเพื่อก้าวขึ้นสู่ชั้นปีที่สองก็เริ่มต้นขึ้น โดย