จิตติพัฒน์ เด็กหนุ่มที่ปิดกั้นหัวใจจากความรักเพราะบาดแผลในอดีต และเธอ แพรววา เด็กสาวผู้ที่เข้ามาทำให้หัวใจเย็นชาต้องสันไหว

ปลดล็อคหัวใจให้รักเธอ - บททึ่สิบสอง 12 โดย ลักกี้ หยาง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,แฟนตาซี,วัยว้าวุ่น,ไทย,แฟนตาซี,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ปลดล็อคหัวใจให้รักเธอ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,แฟนตาซี,วัยว้าวุ่น,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

ปลดล็อคหัวใจให้รักเธอ โดย ลักกี้ หยาง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จิตติพัฒน์ เด็กหนุ่มที่ปิดกั้นหัวใจจากความรักเพราะบาดแผลในอดีต และเธอ แพรววา เด็กสาวผู้ที่เข้ามาทำให้หัวใจเย็นชาต้องสันไหว

ผู้แต่ง

ลักกี้ หยาง

เรื่องย่อ

เนื้อเรื่อง : เพราะปมในวัยเด็ก จิตติพัฒน์ พรหมรักษ์ จึงกลายเป็นคนเย็นชาและไร้ความรู้สึก เขาหมดสิ้นศรัทธากับคำว่า "ความรัก" ไปโดยสิ้นเชิง จนกระทั่งในคืนวันครบรอบอายุสิบสามปีของจิตติพัฒน์ จู่ ๆ เด็กหนุ่มก็ได้ยินเสียงของโซลเมทลอยเข้ามาเพื่อปลอบประโลมจิตใจของเขา ทว่าถึงกระนั้นจิตติพัฒน์กลับใจแข็งที่จะไม่ยอมขานรับโซลเมทอยู่เป็นเวลาหลายปี


ด้วยความที่เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของบ้านทำให้ แพรววา ดุจพิบูลย์ผล มักถูกพ่อคอยตามกีดกันทุกวิถีทางไม่ให้มีหนุ่ม ๆ เข้ามารุมต้อมเธอได้แต่โชคดีหน่อยที่มีแม่คอยช่วยไว้ ทำให้แพรววายังพอมีเพื่อนเป็นผู้ชายได้อยู่บ้าง แต่แล้ววันหนึ่งในคืนแห่งความสุขที่ทุกคนในบ้านกำลังเฉลิมฉลอง แพรววากลับได้ยินโซลเมทของเธอที่กำลังทุกข์ทรมานอย่างเจ็บปวด เธอจึงพยายามปลอบโยนโซลเมทของตนที่ไม่รู้อยู่ที่ไหนสักแห่ง แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมขานรับเธอเลยก็ตาม กาลเวลาผ่านไปแพรววาก็เริ่มที่จะตัดใจจากโซลเมทที่ชาตินี้คงไม่มีทางเห็นหน้ากัน จนกระทั่งเธอได้พบกับเด็กหนุ่มผู้แสนจะเย็นชาที่ซ่อนความเจ็บปวดอยู่ข้างใน

สารบัญ

ปลดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่หนึ่ง 01,ปลดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่สอง 02,ปลดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่สาม 03,ปลดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่สี่ 04,ปลดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่ห้า 05,ปลดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่หก 06,ปลดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่เจ็ด 07,ปลดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่แปด 08,ปลดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่เก้า 09,ปลดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่สิบ 10,ปลดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่สิบเอ็ด 11,ปลดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บททึ่สิบสอง 12

เนื้อหา

บททึ่สิบสอง 12

เมื่อไหร่นายจะเลิก

เอาชีวิตของตัวเองไปผูกติดกับอดีตสักที

จิตราวุธ



ผลสรุปจากการตรวจร่างกายของป้าเอมแล้วพบว่าต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล อย่างน้อยก็หนึ่งถึงสองวันเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาการอื่นแทรกซ้อน ซึ่งป้าเอมก็ดูไม่อยากจะลาหยุดเพราะห่วงงานที่บ้าน แต่ก็ไม่อาจขัดคำขอของพจนวีร์กับแพรววาได้จึงใจอ่อนยอมนอนพักต่อ เนื่องจากไม่ได้แจ้งกับทางโรงพยาบาลว่าจะค้างที่นี่ ทำให้ทุกคนต่างพากันกลับบ้านโดยมีรถของโทบี้ไปส่ง แก๊งสาว ๆ ตัดสินใจว่าจะค้างคืนกันที่บ้านของแพรววา ส่งผลให้บรรยากาศในรถไม่เงียบเหงาอีกต่อไป


ระหว่างที่คนอื่น ๆ กำลังพูดคุยกันอยู่นั้นสายตาของพิมพ์พรรณ ก็หันไปเห็นคนกลุ่มหนึ่งยืนรอรถเมย์กันอยู่และพิมพ์พรรณก็เห็นเด็กหนุ่มผู้เป็นโซลเมทของเธอ ก็ยืนอยู่ในกลุ่มนั้นด้วยคาดว่าคงจะเป็นเพื่อนของเขาแน่นอนว่า พวกคติยาแสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่โดยเฉพาะกับนาถชญา ซึ่งสำหรับแพรววาก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเพราะหนึ่งในนั้นมีคนที่เป็นอริกับเธออยู่ด้วย ทว่าสายตาของแพรววากลับหยุดลงที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งผู้นั่งอยู่ข้างโซลเมทของพิมพ์พรรณมากกว่า 


เช่นเดียวกับพิมพ์พรรณที่ยังไม่ละสายตาจากเด็กหนุ่มผู้สวมแว่นตา ผู้ที่กำลังหัวเราะชอบใจกับเพื่อน ๆ อยู่จนไม่ทันสังเกตว่ากลุ่มคติยาเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติที่พิมพ์พรรณแสดงออกมา


"พี่พิมมองใครอยู่ ยิ้มหวานเลยนะ"


เสียงของยุวดีทักขึ้น ทำเอาพิมพ์พรรณสะดุ้งเล็กน้อยและหันขวับมาสบตากับกลุ่มคติยาที่จ้องมาอย่างฉงนใจ ส่วนแพรววาก็แอบแกล้งทำเป็นกำลังฟังเพลงอยู่ ซึ่งเด็กสาวจำใจต้องใช้ลูกไม้ที่ไม่ว่าอย่างไรก็คงไม่ทำให้คนอื่น ๆ เชื่อได้


"เปล่า พี่แค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนะ"


และพิมพ์พรรณก็คิดไว้ไม่ผิดเพราะนอกจากจะไม่มีใครเชื่อแล้ว ยังถูกหยาดรุ้งกับยุวดีใช้ลูกอ้อนผสมลูกตื้อตลอดการเดินทาง จนกระทั่งในที่สุดรถมาถึงบ้านของแพรววาและพิมพ์พรรณก็ยังไม่ยอมตอบคำถามใคร ทันทีที่ก้าวเท้าลงจากรถเด็กสาวรีบวิ่งหายเข้าไปในตัวบ้านทันที ซึ่งแพรววาเดาว่าคงจะหนีไปหลบอยู่ในห้องนอนส่วนตัวอีกห้องที่มีไว้ให้พิมพ์พรรณ ในกรณีที่จะมาค้างคืนแต่สุดท้ายทั้งเธอกับอีกฝ่ายก็นอนห้องเดียวกันอยู่ดี


"ยัยแพรว พี่พิมเป็นอะไรไปนะตั้งแต่รู้จักกันมา ฉันไม่เคยเห็นพี่พิมเป็นแบบนี้เลย" อนัญลักษณ์หันมาถาม


"นั้นสิ" มณีอรเสริม "พี่พิมตอนนี้เหมือนคนกำลังมีความรักเลย"


แพรววานิ่งไปและหันมาเผชิญหน้ากับสายตาอันอยากรู้อยากเห็นของเพื่อน ๆ เธอจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาแผ่วเบา


"ก็ได้ แต่ต้องให้พี่พิมอนุญาตก่อนนะ" 


สุดท้ายหน้าที่การโน้มน้าวก็ไม่พ้นแพรววาเองที่ต้องมาเกลี้ยงกล่อมพิมพ์พรรณ โดยพวกมณีอรต่างให้คำมั่นเป็นเสียงเดียวกันว่าจะไม่บอกใคร พิมพ์พรรณในตอนแรกยังใจแข็งอยู่ทว่าเมื่อเห็นว่าทุกคนต่างสัญญาว่าจะไม่บอกใคร เด็กสาวที่อายุโตสุดในกลุ่มจึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมด และเมื่อเล่าจบลงแล้วหยาดรุ้งถึงกับลุกตาวาวขึ้นมาทันที พร้อมทั้งรู้สึกอิจฉาทั้งพิมพ์พรรณและแพรววาที่ต่างก็มีโซลเมทเป็นของตัวเองแล้ว


ในณะที่เธอไม่ได้มีอาการหูดับหรือแม้แต่จะเห็นในความฝัน แพรววาสังเกตเห็นว่าสีหน้าของอนัญลักษณ์ดูแปลก ๆ ไป แต่ก็ไม่ค่อยอยากถามอะไรมากเท่าไหร่เพราะมีเสียงแจ้งเตือนตรงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น มันคือข้อความที่ส่งมาจากเสมอแมน "แพรว พี่ขอโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองสักครั้งได้ไหม" พอเห็นแบบนี้ก็เล่นเอาแพรววารู้สึกเหมือนตัวเองกินผักขมเข้าไปทั้งต้น เด็กสาวถอนหายใจเล็กน้อยและยื่นโทรศัพท์ให้คนอื่น ๆ อ่านข้อความของเสมอแมน สีหน้าของแต่ละคนก็ล้วนมีแต่เห็นใจแพรววา


"ฉันไม่เข้าใจพี่เสมอแมนจริง ๆ รู้ทั้งรู้ว่ายัยแพรวไม่ชอบก็คือไม่ชอบ จะตามตื้ออะไรหนักหนา" ยุวดีบ่นอุบ


"ที่น่าหงุดหงิดแทนยิ่งกว่าคือ" คติยาพูดขณะกำลังแก้การบ้านของตัวเอง "ยัยแพรวไม่สามารถพูดเรื่องที่ตัวเองมีโซลเมทได้ด้วย"


"แต่หนูคิดว่าพี่แพรวควรบอกนะคะ อย่างน้อยบางทีพี่เสมอแมนอาจยอมถอยก็ได้" ลวิตตาเสนอความคิดเห็น


"กลัวจะเป็นตรงข้ามนะสิ ลูกปัด" แพรววาพูด


"ทำไมค่ะ" 


แพรววาถอนหายใจ


"พี่อยู่ชมรมเดียวกับพี่เสมอแมนย่อมรู้นิสัยเขาดี ยิ่งถ้าพี่พูดเรื่องนี้ละก็นอกจากพี่เสมอแมนจะไม่เชื่อแล้ว คงจะท้าทายให้พาโซลเมทมาเจอตัวให้ได้" แพรววาถอนหายใจอีกครั้ง "แล้วในสังหรณ์พี่นะคงไม่จบง่าย ๆ หรอก" 


มณีอรกลับคิดอีกแบบมากกว่า "ทำไมเธอไม่ลองนัดเจอกับโซลเมทดูล่ะ ตอนนี้เขายอมพูดกับเธอแล้วนี่"


ซึ่งนั้นทำให้นาถชญาพยักหน้าเห็นด้วย


"ใช่ ๆ ฉันก็เชื่อนะว่าทางฝ่ายโน้นต้องอยากเจอเธออยู่แล้ว ยัยแพรว" แพรววายังคงนิ่งเพื่อครุ่นคิดว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี แต่สามนาทีต่อมาเธอก็ได้ให้คำตอบกับทุกคนก่อนที่ภายหลัง พจนวีร์จะขึ้นมาตามให้ทุกคนลงไปรับประทานอาหาร


"ฉันจะลองคุยกับเขาดูนะ"


❤️❤️❤️❤️


แพรววารู้สึกนอนไม่ค่อยหลับจึงตัดสินเดินมานั่งบนเก้านวมนุ่มตรงระเบียงของห้อง พร้อมกับเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ตอนนี้ถูกประดับประดาด้วยดวงดาวที่ส่องแสงเป็นประกายระยิบระยับ ให้ความรู้สึกเหมือนเวลายามเย็นมากกว่ายามราตรีเสียอีก เมื่อตอนนี้แพรววามีเวลาได้อยู่กับตัวเองแล้วก็เริ่มคิดทบทวนหลายอย่าง แพรววายอมรับว่าใจจริงเธอก็อยากบอกเรื่องโซลเมทกับเสมอแมนเหมือนกัน


ทว่าโอกาสที่อีกฝ่ายจะไม่เชื่อมันก็อาจมีมากกว่า และเสมอแมนก็อาจปักใจเชื่อว่าเธอแต่งเรื่องเพื่อกันเขาออกไป ขณะเดียวกันแพรววาก็ไม่อยากใช้โซลเมทเป็นเครื่องมือด้วย เพราะเธออยากเจออยากรู้จักกับอีกฝ่ายจริง ๆ แต่อีกปัญหาหนึ่งก็คือพศพัชร์ ซึ่งก่อนหน้านี้อนัญลักษณ์เคยแนะนำว่าให้เอาเรื่องเสมอแมนไปบอกพศพัชร์ ทว่าแพรววาก็ไม่อยากบอกเพราะรู้นิสัยของพ่อตัวเองดี และถึงแม้แพรววาจะรู้สึกรำคาญเสมอแมนมากแค่ไหน เธอก็คิดเลยว่าเขาก็ไม่สมควรจะโดนแบบเดียวกับป็อบเพื่อนเก่าของเธอ


"ท้องฟ้าวันนี้สวยจัง" แพรววาพึมพำเล็กน้อยพลางคิดถึงเสียงของโซลเมท


น่าแปลกดีแท้ ๆ ยังไม่เคยเห็นหน้ากันเลยแถมยังได้คุยกันแค่ครั้งเดียวคือตอนที่เขาถามชื่อเธอเท่านั้น และมันก็ทำให้เด็กสาวอยากรู้จักกับอีกฝ่ายมากขึ้น น่าเสียดายที่อาการหูดับเป็นสิ่งที่ไม่อาจควบคุมมันได้ จึงทำได้แค่เพียงนั่งเหม่อคิดถึงเสียงของโซลเมทเท่านั้น และในตอนนั้นเองที่จู่ ๆ ภาพของยุวชนทหารหนุ่มผู้ที่เข้ามาช่วยเธอไว้จากอุบัติเหตุในพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ได้ปรากฏขึ้นในช่วงเวลาที่เธอกำลังเหม่อลอยพอดี ทำเอาเด็กสาวสะดุ้งด้วยความตกใจและเกิดความฉงนใจว่าทำไมจู่ ๆ ภาพของเด็กหนุ่มคนนั้นถึงลอยเข้ามาในหัวได้


เสี้ยววินาทีนั้นเองเสียงจี้ดก็ดังก้องในแก้วหูของแพรววาและลากยาวประมาณสามถึงสี่นาที ก่อนที่มันจะเงียบหายไปและสักพักแพรววาก็ได้ยินเสียงคนกำลังร้องเพลง แพรวววานั่งนิ่งไปสิบนาทีก่อนจะตัดสินใจลองทักอีกฝ่ายไปว่า


"ยังไม่นอนอีกเหรอ"


ทว่ากลับกลายเป็นว่าโซลเมทยังคงเหมือนร้องเพลงต่อราวกับเขาไม่ได้ยินเสียงของเธอเลย แพรววาขมวดคิ้วเล็กน้อยว่าโซลเมทไม่ได้ยินเสียงของเธออย่างนั้นหรือ เด็กสาวจึงตัดสินใจลองเรียกขานโซลเมทอีกรอบสอง


"เจต เธอได้ยินเสียงฉันไหม"


ผลลัพท์คืออีกฝ่ายยังคงร้องเพลงต่อไป แพรววาคิ้วขมวดชนกันหนักกว่าเดิมว่าทำไมเธอถึงได้ยินเสียงอยู่ฝ่ายเดียว หรือพระเจ้าต้องการให้เธอได้ยินเสียงของเขาเพียงฝ่ายเดียว เด็กสาวส่ายหน้าไล่ความคิดไร้สาระออกไปจากสมอง และคิดว่าในเมื่อโซลเมทไม่ได้ยินเสียงของเธอมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ดังนั้นแพรววาจึงตัดสินใจนั่งฟังอีกฝ่ายร้องเพลงแบบเงียบ ๆ แทน ระหว่างที่นั่งฟังแพรววายอมรับว่าอีกฝ่ายร้องเพลงไพเราะอยู่ไม่น้อย


ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วแต่แพรววารู้ตัวอีกทีมันก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว


❤️❤️❤️❤️


จิตติพัฒน์ก้มมองดูนาฬิกาข้อมือพลางเกาหัวอย่างเบื่อหน่าย ตอนนี้เขาอยู่ที่สถานีรถไฟเนื่องจากได้รับข้อความของจิตราวุธกับจิตรเทพว่า ทั้งสองจะเดินทางมาหาเขาในวันรุ่งขึ้นอยากให้มารับหน่อย จิตติพัฒน์สงสัยอยู่ไม่น้อยว่าทำไมพี่ชายทั้งสองถึงตัดสินใจมาหาเขาถึงนี้ หรือมันจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในงานจัดแสดงอัญมณี


ครู่ต่อมาหลังจากที่ต้องรอมาสองชั่วโมงในที่สุดรถไฟก็แล่นเข้ามาจอดเทียบชานชาลา และประตูรถไฟก็เปิดออกและผู้คนที่อยู่ข้างใน ก็เริ่มทยอยเดินออกมาจากพื้นที่โล่ง ๆ เริ่มอัดแน่นไปด้วยฝูงชนหลายร้อยคน โชคดีที่จิตติพัฒน์ค่อนข้างจะตัวสูงจึงไม่ค่อยมีปัญหากับลูกคลื่นฝูงชนเท่าไหร่นัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าการจะมองหาสองพี่ชายเป็นเรื่องยากอยู่ เพราะส่วนมากเด็กหนุ่มจะคุ้นเคยในภาพลักษณ์ตอนที่ทั้งคู่สวมเครื่องแบบทหารมากกว่า ทว่าสุดท้ายจิตติพัฒน์ก็มองหาเจอจนได้และสามพี่น้องต่างเดินมาหากันด้วยความรักปองดอง


"รอนานไหม น้องชาย" จิตราวุธหันมาถามและกอดคอจิตติพัฒน์


"ไม่นานหรอก ว่าแต่พี่สองคนมาหาผมเนี่ยมีเรื่องอะไรเหรอ" จิตติพัฒน์ถามตรง ๆ


จิตรเทพยิ้มเล็กน้อยเพราะตนรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรจิตติพัฒน์ต้องถามเรื่องนี้ "ไปหาอะไรกินกันก่อนสิ พี่กับจั้กจั่นมีเรื่องจะคุยกับนายพอดี"


แม้จะยังไม่ค่อยเข้าใจมากนักแต่จิตติพัฒน์ก็พยักหน้ารับ แล้วสามพี่น้องก็พากันเดินลงมาจากสถานีรถไฟเพื่อที่จะมองหารถแท็กซี่ ระหว่างทางไม่มีใครปริปากพูดอะไรเลยทำให้บรรยากาศภายในรถแลดูอึดอัดพอสมควร จนในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่หมายและหลังจากจิตรเทพกับจิตราวุธนำของไปไว้ในที่พักแล้ว สามพี่น้องจึงมานั่งคุยกันในร้านอาหารหนึ่งในโรงแรมเพื่อความเป็นส่วนตัว


ช่วงที่รออาหารมาเสิร์ฟจิตติพัฒน์ก็อยากรู้เหลือเกินว่าทั้งสองมาด้วยเรื่องอะไร ทว่าเด็กหนุ่มก็สังเกตท่าทางของจิตราวุธที่ดูลังเลใจอย่างไรชอบกล ส่วนจิตรเทพยังอยู่ในท่าทีสงบและพอสบตากับน้องชายคนเล็กก็ถอนหายใจมาเล็กน้อย


"เจต พี่มีเรื่องมาบอกนายว่า พี่จะไม่อยู่ที่นี่ประมาณเดือนหนึ่งนะ" จิตรเทพพูด "ถ้ามีเรื่องอะไรให้ติดต่อหาจิตราวุธได้เลย เพราะรอบนี้พี่จะไปคนเดียว" จิตรเทพหันไปทางจิตราวุธที่แสดงสีหน้าเชิงไม่เห็น


"ผมไม่ค่อยเห็นด้วยนะพี่ไจแอนท์ มันผ่านมาหลายปีแล้วนะไม่รู้จะไปตามหาเขาทำไม" จิตราวุธคัดค้าน


วินาทีนั้นเองที่จิตติพัฒน์เหมือนจะเริ่มเข้าใจแล้วว่าจิตรเทพคิดจะไปไหน เขาจึงจ้องหน้าไปยังพี่ชายคนโตที่ยังคงนั่งสงบนิ่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย


"พี่จะไปตามหาแม่เหรอ"


❤️❤️❤️❤️