'ความลับไม่มีในโลก' ถึงผมจะเชื่ออย่างนั้น แต่หากมันทำให้เธอเสียใจเมื่อรู้แล้วล่ะก็ ผมยอมเก็บมันเป็นความลับต่อไปแล้วหายไปกับผม 'ตราบอนันต์'
ชาย-ชาย,ดราม่า,รัก,เรื่องสั้น,เศร้า,melynskyv,สุขสานอนันต์กานต์,นิยายวาย,ดราม่า,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
(ฟรี-31/01) สุขสานอนันต์กานต์'ความลับไม่มีในโลก' ถึงผมจะเชื่ออย่างนั้น แต่หากมันทำให้เธอเสียใจเมื่อรู้แล้วล่ะก็ ผมยอมเก็บมันเป็นความลับต่อไปแล้วหายไปกับผม 'ตราบอนันต์'
- มีตัวละครหลักตาย
- มีเลือด
- มีการทำร้ายร่างกาย
- มีการใช้อาวุธปืน และมีด
- มีการคุกคามทางสายตาและการสัมผัสผ่านเครื่องแต่งกาย
- มีตัวละครหลักตาย
พรึบ
แผ่นกระดาษถูกพลิกด้วยมือเรียวบาง สายตาไล่อ่านทุกตัวอักษรที่ปรากฏตรงหน้าอย่างตั้งใจ
"คุณ เย็นนี้ทานอะไรดีครับ" เสียงใสของเธอทำให้ผมหันไปตามเสียงเรียก
"กานต์อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม เดี๋ยวพี่เตรียมไว้ให้" เพราะเธอต้องออกไปทำงาน ผมจึงมักเตรียมอาหารเย็นไว้รอเพื่อรับประทานอาหารพร้อมกันเสมอ
"อยากทานอะไรก็ได้ที่ทำจากฝีมือเชฟนันต์ คุณอนันต์ทำอร่อยถูกปากกานต์ทุกอย่าง..."
"ยิ่งไข่ดาวไม่สุกยิ่งชอบ"
"ยิ่งไข่ดาวไม่สุกยิ่งชอบ" เธอยิ้มตาสระอิเพราะได้ยินคำพูดแบบเดียวกัน ทำเอาคนมองแบบผมอดที่จะยิ้มตามไม่ได้ ใบหน้าจิ้มลิ้มและปากอมชมพูเจ้าของชื่อพันธกานต์นั่นแหละ คือคนที่เป็นเจ้าของหัวใจของเอกอนันต์คนนี้
"งั้นพี่ทำพริกแกงหมูไข่ดาวเมนูโปรดกานต์นะ" ช่วงนี้ผมอยากเอาใจเธอเป็นพิเศษ อยากให้ทุกวันของเราเต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำที่ดี
"ได้ครับ คุณอยากทานขนมอะไรหรือเปล่ากานต์จะได้แยกไว้ให้"
"พี่อะไรก็ได้ครับ เหลืออะไรค่อยเก็บมาให้นะ" เพราะกานต์เปิดร้านขนมหวานในตัวเมืองแต่บ้านของพวกเราอยู่ชนบท หลังไม่ใหญ่มากเพราะอยู่กันเพียงเท่านี้ จึงลำบากกานต์ต้องคอยตื่นแต่เช้าเพื่อจัดของเข้าร้าน ผมเคยคุยเรื่องนี้กับเธอแต่ก็ได้คำตอบกลับมาว่า บ้านที่เราจะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่าก็ควรอยู่ในชนบทไม่ใช่เหรอ
"พูดแบบนี้อีกแล้ว กานต์อยากให้คุณได้กินของดี ๆ ที่ไม่ใช่ของเหลือ" คิ้วคมสีน้ำตาลเข้มของเธอขมวดเป็นปม แก้มเริ่มแสดงสีของเลือดฝาด ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากัน ไม่บอกก็รู้ว่าอาการนี้ของเจ้าตัวคืออะไร
"ไม่งอนนะครับคนดี พี่แค่ไม่รู้จะทานอะไร กานต์ช่วยเลือกให้หน่อยได้ไหมครับ" ผมตรงไปหาเธอแล้วรวบตัวเข้ากอด เกยคางไว้บนไหล่เล็กพร้อมชิงความหอมจากแก้มนิ่ม ถึงใบหน้าน่ารักนั่นจะยับยู่ยี่แต่ก็ไม่สามารถเก็บซ่อนตัวตนที่แท้จริงของเธอได้ ตัวตนที่หมายถึงความน่ารัก ที่ทำให้ผมรัก
"อือ งั้นไว้กานต์ไปดูของที่ร้านแล้วจะโทรมาถามนะครับ" เธอมักจะใจอ่อนเสมอ เรามักจะใจอ่อนไม่ว่าเรื่องใหญ่ขนาดไหนก็สามารถทำให้มันเป็นเรื่องเล็กได้ เพราะเราไม่อยากทะเลาะกัน ไม่อยากให้เหตุผลอะไรก็ตามมาแยกพวกเราออกจากกัน
"ครับ ขึ้นรถก็ดูทางดี ๆ ล่ะ ถึงร้านแล้วอย่าลืมโทรบอกกัน"
"กานต์ไปแล้วนะ" สิ้นคำนั้นผมจดริมฝีปากบนเปลือกตาทั้งสองข้างของเธอ ตามด้วยจมูกโด่ง ปากอมชมพู แล้วเลื่อนขึ้นมาหยุดที่กลางหน้าผากเป็นอย่างสุดท้าย ผมทำอย่างนี้เป็นปกติจนเคยชิน ซึ่งเธอก็บอกว่ามันคือเครื่องรางที่ถ้าลืมวันไหนอาจต้องกระวนกระวาย กลัวเรื่องไม่คาดฝันที่ยังไม่เกิด
"ไปดีมาดีครับ" เธอส่งยิ้มให้หลังสิ้นเสียงของผม เป็นยิ้มหวานที่สุดของเช้าวันใหม่และส่งผลให้วันนี้ทั้งวันของเอกอนันต์ผู้นี้สดใส
เวลาล่วงเลยไป ถึงเวลาที่กานต์จะต้องกลับถึงบ้าน บนโต๊ะมีจานเปล่ารอข้าวสวยร้อน ๆ มาตักใส่ และกับอีกสองอย่างพร้อมผัดพริกแกงเมนูโปรดของเธอ
"กลับมาแล้วครับ" เสียงปลดล็อกประตูดังขึ้นตามด้วยเสียงเอ่ยทัก
"เหนื่อยไหมที่รักของพี่" ผมดีดตัวลุกขึ้น แขนคว้าถุงผ้าลายไทยของกานต์มาไว้บนโต๊ะก่อนก้าวขาไปสวมกอดเธออย่างเคย อาจดูเลี่ยนไปบ้างหากแต่สิ่งที่เอ่ยมันคือความจริง และความจริงนั้นก็ไม่พ้นจาก พันธกานต์เปรียบเสมือนผู้เป็นที่รักของเอกอนันต์
"อือ นิดหน่อย" ไม่ว่าเปล่า เธอวาดแขนกอดตอบพร้อมซุกหน้าบนอกของผมอย่างออดอ้อน จึงอดไม่ได้ที่จะหอมกลุ่มผมนุ่มแล้วลูบมันอย่างเบามือที่สุด
"ลูกค้าเยอะเหรอ หรือที่ร้านมีปัญหาอะไร"
"เปล่าหรอก กานต์แค่อยากอ้อน..." พูดจบก็ช้อนตามองทำเอาผมเก็บอาการไว้ไม่อยู่ ต้องเบนสายตาไปทางอื่นจนได้ยินเสียงใสหัวเราะเบา ๆ
"พี่เตรียมข้าวไว้เรียบร้อยแล้วนะ กานต์จะทานเลยไหมพี่ได้จะไปตักข้าวสวยให้"
"ทานเลยก็ได้ครับ ส่วนขนมเดี๋ยวกานต์เอาไปจัดจานให้นะ"
เราทั้งคู่ใช้ชีวิตเช่นนี้วนลูปจนเป็นกิจวัตร มันเรียบง่ายและแสนจะธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่ได้หวานชื่น
จะมีก็แต่...
"ขนมมาแล้วครับ" มือเรียวสวยถือจานออกมาจากห้องครัว
"เห็นหรือยัง บนโต๊ะมีแต่ของโปรดกานต์ทั้งนั้นเลย" อาการหลังเธอสังเกตอาหารแต่ละอย่างช่างน่าเอ็นดู ตากลมสวยลุกวาวขึ้นจนผมยกยิ้มพอใจ พอใจที่ทำให้คนตรงหน้ามีความสุขได้ด้วยการกระทำของผม
ความสุขที่สร้างได้จากการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ
ไม่มีอะไรวาบหวิว ไม่มีอะไรมากมาย
แต่กลับแสดงออกถึงความรักที่มีให้กันอย่างชัดเจน
ชัดเจนเสียจนไม่อยากให้มันหายไป หายไปพร้อมอะไรก็ตามหรือแม้กระทั่งกับกาลเวลา
แต่ใครก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ อย่างไรกาลเวลานั้นย่อมนับถอยหลังรอวันหมดอายุไขของแต่ละคน อยู่ที่ว่าใครจะเหลือมาก และใครจะเหลือน้อย
ไม่อยากจะบอกแบบนี้แต่ทว่า...
เวลาของผมเหลือน้อยเต็มที และใกล้จะได้จากคนที่รักไปตลอดกาลเสียแล้ว