เธอสาวมัธยมปลายไปสารภาพรักกับรุ่นพี่มหาลัยปี1แต่ก็โดนปฎิเสธกลับมา ผ่านไป3ปีพวกเขากลับมาเจอกันอีกครั้งในรั้วมหาลัย....แถมยังต้องให้มีเรื่องใกล้ชิดกันอีก 
ภารกิจให้เป็นคู่เดทเป็นเวลา1อาทิตย์...
        รัก,ผู้ใหญ่,วัยว้าวุ่น,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี,  นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
        
        
      
          ภายในรถ 
ต่างคนต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไรออกมามีแค่เพียงเสียงเพลงที่รุ่นพี่ใจร้ายเปิดไว้ตั้งแต่ขึ้นรถและสุดท้ายก็เป็นฉันเองที่ทนไม่ไหวมันอึดอัดจนต้องถามออกไป
  
 “นี่เราจะไปกินข้าวกันที่ไหนคะ”
 “…” และเขาก็เงียบ
 “รุ่นพี่!! ได้ยินที่พูดไหมคะเนี้ย”ฉันเริ่มที่จะโมโหรุ่นพี่ใจร้ายและพอเขาไม่ตอบฉันก็เลือกที่จะหันหน้าออกไปมองที่นอกหน้าต่างแทน
 “ต่อไปให้เรียกแทนตัวเองว่า หนู”ฉันหันมองหน้ารุ่นพี่ใจร้ายทันที อยู่ดีๆก็มาออกคำสั่งให้แทนตัวเองว่าอย่างนู้นอย่างนี้ นี่เขามีสิทธิ์อะไร วุ่นวายจริงให้ตายเถอะ
 “ทำไหมต้องเรีย...”ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบประโยค เขาก็พูดแทรกขึ้นมา
 “ฉันว่าน่ารักดี”เขาพูด
 “...”
 “เรามีภารกิจเดทกันอยู่ ตอนนี้เธอเป็นแฟนฉัน เพราะฉะนั้นฉันพูดอะไร เธอต้องฟัง”และรุ่นพี่ใจร้ายก็ใช้สายตาดุมองมาที่ฉัน 
 “เห้อ ก็ได้ค่ะ”ฉันถอนหายใจออกมาเสียงดังพรางคิดในใจว่าอาทิตย์เดียวเท่านั้นก็จะได้อิสระจากกิจกรรมบ้าๆนี้แล้ว 
 ร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้า
 “อยากกินอะไรสั่งได้เลยนะ”เมื่อเดินเข้ามานั่งภายในร้านอาหาร รุ่นพี่ปี4ก็เริ่มสั่งอาหารทันทีและไม่ลืมที่จะถามฉันว่าอยากได้อะไรเพิ่มอีกไหม 
 “แค่นี้ก็เต็มโต๊ะแล้วค่ะรุ่นพี่”ฉันมองดูอาหารที่ตั้งอยู่เต็มโต๊ะและเผลอหันไปสบตากับรุ่นพี่เข้าพอดี
 “พี่วิน”
 “หื้มม”อยู่ดีๆรุ่นพี่ใจร้ายก็พูดชื่อตัวเองขึ้นมา
 “เรียกฉันว่าพี่วิน แล้วก็เลิกทำหน้าจะตายแบบนั้นด้วย” 
 “....” เหอะ ที่เซงก็เพราะใครกันล่ะเนอะ
  “มานั่งตรงนี้” เขาออกคำสั่งอีกแล้วเรียกให้ฉันไปนั่งตรงข้างๆเขา
 “ทำไมคะ”
 “ต้องถ่ายรูปคู่”
 “หื้ออ”
 “ภารกิจแรก เขาพึ่งส่งมา”
 “ส่งมาว่าไงบ้างคะไหนขอดูหลักฐานหน่อยค่ะ”ไม่พูดเปล่า ฉันแบบมือขอดูหลักฐานบนมือถือเครื่องหรูของรุ่นพี่ใจร้ายทันที แต่เขาไม่ให้ดูอีกทั้งยังออกคำสั่งเสียงใส่ฉันอีก
 “มานั่งตรงนี้!!”รุ่นพี่ใจร้ายเริ่มหงุดหงิดแสดงอาการดุดันออกมา ฉันจึงจำใจต้องลุกเดินไปนั่งข้างๆเขา
 “ถ้าเธอไม่ยิ้มฉันก็ไม่กดถ่ายหรอกนะ”ฉันนี่กรอกตามองบนเลยแต่จะทำไงได้เขาพูดมาแบบนี้ฉันเลยต้องฝืนยิ้มออกไปและรุ่นพี่ใจร้ายก็เริ่มถ่ายรูปเซลฟี่ของเราสองคน ถ่ายตั้งหลายมุม หลายภาพ
 “พี่เขยิบเข้ามาใกล้เกินไปแล้วนะ!!” เพราะเขาขยับตัวเข้ามาใกล้ฉันจนใบหน้าของเราสองคนแทบจะติดกันอยู่แล้ว
 “รู้จักคำว่าเดท คู่รักไหม”รุ่นพี่ใจร้ายพูดแต่ก็ยังไม่ยอมที่จะเขยิบเอาหน้าดูดีหล่อเหลาของตัวเองให้ออกห่างจากใบหน้าของฉัน
 “เห้ออ”ฉันได้แต่ถอนหายใจระบายความน่ารำคาญออกไป
 หลังกินอาหารเสร็จ
 ภายในรถ
 “จอดตรงป้ายรถเมล์นี้ได้เลยค่ะ”เนื่องจากตอนนี้มันเริ่มมืดแล้ว ฉันเกรงใจรุ่นพี่ใจร้ายด้วยและไม่อยากให้เขารู้จักคอนโดของฉันด้วยเลยเลือกที่จะบอกรุ่นพี่ใจร้ายไปแบบนั้น    
 “...”เขายังคงเงียบ
 “พี่วิน” ฉันเรียกรุ่นพี่ใจร้ายอีกครั้ง
 “คอนโดอยู่ที่ไหน”สุดท้ายรุ่นพี่ใจร้ายก็พูดออกมาสักที
 “เกรงใจค่ะ ลงตรงนี้ได้จริงๆนะคะ”แต่เขาก็ยังเป็นเขา ไม่สนใจ ไม่ฟังคำพูดของฉันเลยสักนิด กวนประสาท และสุดท้ายเขาเงียบฉันก็เลยต้องบอกชื่อคอนโดของฉันให้รุ่นพี่ใจร้ายรู้ถึงที่อยู่ของฉัน และก็ไม่ลืมที่จะขอมือถือของฉันคืน
 “คอนโดXXXค่ะ เอ่อ ขอมือถือคืนด้วยค่ะ” และเขาก็ยื่นมือถือคืนกลับมาให้ฉัน
 
 ผ่านไปสักพัก Zzz
 
 “ถึงแล้ว”ด้วยระยะที่ไกลพอสมควรประกอบกับเมื่อคืนนั่งดูซีรี่ย์จนดึกแถมแอร์ก็ยังเย็นอีกด้วยจึงทำให้ฉันเผลอหลับ พอได้ยินเสียงเหมือนใครเรียกก็สะดุ้งตื่น พอลืมตาขึ้นมาก็เจอกับหน้าของรุ่นพี่ใจร้ายที่ใบหน้าของเขาแทบจะชนกับหน้าของฉันอยู่แล้ว
 “อ๊ะพี่ทำไรเนี้ย”เขานิ่ง รุ่นพี่ใจร้ายแค่จะถอดสายคาดเบลท์ให้กับฉัน
 “เช็ดน้ำลายหน่อย”คนบ้านิ เรื่องแบบนี้เขาสมควรบอกฉันไหมเนี้ย น่าอายจริงๆเลย
 คอนโดXXX
 “ขอบคุณนะคะที่มาส่ง..หนู” ฉันยกมือไหว้ขอบคุณเขาและเพราะสายตาที่เขามองฉันอยู่ เลยต้องแทนตัวเองว่าหนูตามที่พี่เขาบอก
 “เดี๋ยว” ฉันที่กำลังจะเปิดประตูรถจะก้าวออกไปก็ต้องหยุดแล้วหันไปมองพี่เขา
 “ฉันจะขึ้นไปกับเธอด้วย”
 “หา จะขึ้นไปทำไมคะ”
 “ทำไมชอบให้เตือนตลอดเลย” ไม่พูดเปล่า เขาขยับตัวเข้ามาใกล้จนหลังฉันแทบจะชิดกับเบาะรถอยู่แล้วฉันจึงใช้มือดันหน้าอกเขาออกไป
 “คนเป็นแฟนกันขึ้นไปไม่ได้หรอ” รุ่นพี่พูดมาแต่ละคำนี่มันแบบ...
 “พี่ไม่ต้องเล่นจริงจังก็ได้นี่คะ”เพราะเขาดูจริงจังจนเกินไป ฉันเลยลองพูดออกไป
 “โทษทีนะ ฉันเป็นคนจริงจัง” เมื่อลงจากรถ ฉันจึงเป็นคนเดินนำหน้ารุ่นพี่ใจร้ายเข้าไปก่อน แต่เพราะพอเข้าไปในลิฟท์ รุ่นพี่ใจร้ายเป็นคนเข้าทีหลังเลยต้องกดลิฟท์
 “ชั้นไหน ห้องอะไร”แล้วฉันก็บอกชั้นที่อยู่และเบอร์ห้องไป พอถึงชั้นที่ฉันอยู่แล้ว ฉันก็เดินออกมาก่อนจนมายืนอยู่หน้าห้องพักของตัวเอง
 “พี่ช่วยหันหน้าไปทางอื่นหน่อยได้ไหมคะ”เพราะไม่อยากให้รุ่นพี่ใจร้ายรู้รหัสเข้าห้องจึงได้บอกเขาออกไปแต่แทนที่รุ่นพี่ใจร้ายจะฟัง ดันกลับเดินเข้ามาใกล้ฉันและพูดออกมาว่า
 “ฉันรู้รหัสแล้วจะทำไม กลัวฉันหรอ” เขายิ้มกรุ้มกริ่ม
 “ตลก”ฉันพูดออกมาเบาๆเพราะกลัวเขาได้ยินและรีบกดรหัสเผื่อที่จะเข้ามาในห้องพักของฉัน
 ภายในห้องของฉัน 
 เมื่อเดินเข้ามาภายในห้อง รุ่นพี่ปี4 ก็เดินสำรวจห้องของฉัน เขาเดินไปทุกมุมภายในห้องไม่เว้นแม้แต่ในห้องนอน
 “อยู่คนเดียว?” เขาเดินมาหยุดอิยู่ตรงโซฟาในห้องรับแขกที่ฉันนั่งอยู่ ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆกายฉัน
 “ค่ะ”
 “เธอสะดวกที่คอนโดของเธอหรือคอนโดของฉัน”
 “คืออะไรคะ” ฉันฟังรุ่นพี่ใจร้ายพูดแล้วงงเลยถามออกไป
 “ต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกัน มันคือภารกิจไง ครั้งหน้าถ้าให้ฉันเตือนอีกครั้ง ฉันจะไม่เตือนปากเปล่าแล้วนะ”
 “...” นี่เขาจะขู่อะไรฉันนักหนาเนี้ย
 “พี่จะกลับได้ยังคะ หนูง่วง”
 “เข้าห้องน้ำเสร็จแล้วฉันจะกลับ” พูดจบรุ่นพี่ใจร้ายก็เดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องนอนของฉันโดยที่ไม่ขออนุญาตสักคำ แล้วรุ่นพี่ใจร้ายก็กลับออกไป หลังจากนั้นฉันจึงนอนตั้งแต่6โมงเย็นยัน4ทุ่ม
 เวลา4ทุ่ม
 หลังจากที่ฉันได้นอนหลับไปก็สะดุ้งตื่นมาอีกทีก็เพราะมีสายเรียกเข้า และปลายสายก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเขาก็คือพี่วินนั่นเองแต่ที่ทำฉันตกใจคือ ชื่อที่แสดงหน้าจอนี่แหละ รู้ไหมว่าพี่เขาบันทึกไว้ว่ายังไง ก็ “พี่วิน แฟนของเธอ”
 เพราะมัวแต่ตกใจอยู่เลยทำให้ไม่ได้รับสายของพี่เขา อยู่ๆสักพักก็มีข้อความจาก Line เด้งเข้ามา
 Line
 ธาวิน : ถ้าฉันโทรอีกครั้งแล้วไม่รับ อีก10นาทีเราเจอกัน
 ฉันกดตอบกลับข้อความกลับไป
 พราว : โอ๊ย หนูหลับอยู่
 เมื่อฉันพิมพ์ข้อความส่งไปเสร็จ พี่เขาก็โทรกลับมาทันที
 “มีอะไรคะ” ฉันที่พึ่งตื่นนอนก็พูดเสียงงัวเงียพร้อมกับหาวใส่หน้าจอมือถือกลับไป
 “พรุ่งนี้วันเสาร์ 10โมงฉันจะไปรับไปกินข้าว กับ ดูหนัง”
 “แต่...หนู”
 “แต่อะไร ทำไม”
 “วันหยุด หนูก็อยากนอนไหมอ่ะ”
 “ไว้นอนในรถ!! อย่าสาย“ แล้วพี่เขาก็วางสายไป
 “จิ๊ เมื่อไหร่จะจบกิจกรรมบ้าๆนี้สักที”